คุณรับขวัญ เจ้าของร้าน Mes Cheries แนะนำการเลือก "แหวนแต่งงาน" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คู่รัก ว่า ก่อนอื่นต้องดูว่าโดยปกติชอบใส่แหวนหรือไม่ ถ้าไม่ชอบและหลังแต่งงานต้องใส่แหวนติดนิ้ว ควรเลือกแหวนแต่งงาน (Wedding Bands) ที่ตัวเรือนไม่ใหญ่มากจนเกินไปจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด หากฝ่ายเจ้าบ่าวมีรูปร่างสูงใหญ่ให้เลือกแหวนที่มีขนาดกว้างมากขึ้น ส่วนขนาดของเพชรถ้าชอบแบบเรียบๆ จะเป็นไซส์เพชร 6-10 ตังค์ เพราะใส่ติดนิ้วได้เลย ส่วนดีไซน์แหวนแต่งงานของเจ้าสาวจะมีความหลากหลายมากกว่า แต่ที่แนะนำคือแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว (Solitaire Ring) เพราะสามารถใส่แมทช์กับแหวนวงอื่นได้ง่าย และเพิ่มความหรูหราให้มากขึ้นได้ที่ก้านแหวน ทั้งนี้ คู่รักควรทำการบ้านเรื่องงบประมาณมาก่อน เพื่อนำมาประกอบการเลือกสี เลือกแบบและไซส์ของเพชร ซึ่งสีตัวเรือนแหวนส่วนมากจะแนะนำเป็นทองคำขาว เพราะสีตัวเรือนมีผลต่อประกายเพชร สามารถทำให้ขาวขึ้นหรือเหลืองลงได้
ทั้งนี้ คอลเลคชั่นล่าสุดของ Mes Cheries ได้ดีไซน์แหวนหมั้นสำหรับเจ้าสาวที่มีความอ่อนหวาน โดยเลือกใช้วัสดุเป็นทองคำขาวและพิงค์โกลด์มาผสมผสานกันในวงเดียว มีความแมทช์อย่างลงตัวกับแหวนของเจ้าบ่าวที่ดีไซน์ปรับลดความความอ่อนหวานลง แล้วเน้นที่ตัวเรือนผสมผสานให้เป็นคู่กัน ประดับด้วยเพชรที่เพิ่มความหรูหรามากขึ้นด้วยไซส์เพชร 20 ตังค์ ซึ่งดูไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป สามารถใส่ติดนิ้วหรือใส่แทนแหวนแต่งงานได้เลย สำหรับการดูแลแหวนเพชร คุณรับขวัญบอกว่าควรหลีกเลี่ยงสเปรย์น้ำหอมเพราะมีผลต่อตัวเรือน ถ้ามีคราบไคล หรือคราบแป้งให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน แล้วใช้ผ้านุ่มซับ คู่รักคู่ไหนต้องการหาไอเดียเลือกแหวนหรือต้องการคำแนะนำในการเลือกแหวนเพิ่มเติม เข้าไปดูแบบได้ที่ IG : @mes_cheries หรือ FB : @MesCheriesJewelry
"การ์ดแต่งงาน" เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่คู่รักใช้เวลาในการเลือกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้แขกคนสำคัญได้สัมผัสถึงความเป็นคู่ที่ลงตัวของบ่าวสาว พร้อมสร้างความประทับใจแรกพบ คุณรัฐา ดีไซน์เนอร์ประจำร้าน Going Marry ได้ยกตัวอย่างการเลือกการ์ดที่บอกถึงตัวตนคู่บ่าวสาว ใน 3 ลักษณะ คือ คู่รักที่ชอบ
ความเรียบง่าย คู่รักโรแมนติก และคู่รักที่ชอบความหรูหรา สำหรับคู่รักที่ชอบความเรียบง่าย คุณรัฐาให้ไอเดียเลือกแบบการ์ดที่เน้นการเลือกโทนสีเข้มที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น สีน้ำเงินกรมท่า สีเบอร์กันดี้
แล้วเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สีขาวด้านหลังเพื่อให้ตัวอักษรอ่านง่ายขึ้น หากต้องการเพิ่มความหรูหราหรือความเก๋ให้ตกแต่งด้วยลายเส้น Geometric ซึ่งการ์ดที่มีสไตล์ Minimal นอกจากเป็นที่ชื่นชอบของบ่าวสาวด้วยความเรียบง่าย เรียบร้อยและดูดีแล้ว ยังเป็นที่ชื่นชอบของแขกผู้ใหญ่ด้วย ส่วนการเลือกแบบสำหรับคู่หวานที่อยากได้ความโรแมนติก จะเน้นลวดลวยของดอกไม้ที่ใช้เทคนิคเป็นภาพวาดสีน้ำ โทนสีพิงค์บลัช สีกรมท่า และสีเบอร์กันดี นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้ภาพพรีเวดดิ้งมาเป็นการ์ดแต่งงาน ซึ่งองค์ประกอบหลักของรูปที่จะนำมาใช้คือบรรยากาศต้องได้ และต้องเลือกรูปมาเผื่ออย่างน้อย 2-3 รูป แล้วนำมาตกแต่งให้เข้ากับธีมสีของงานแต่งงาน ส่วนการ์ดที่เหมาะกับคู่รักที่ชอบสไตล์หรูหรา สามารถเลือกแบบการ์ดแนวโมเดิร์น วินเทจ และแกสบี้ ซึ่งเป็นแบบที่มีลายเส้นเยอะ และสามารถเพิ่มการพิมพ์แบบปั๊มฟอยล์เข้าไปได้อีก
สำหรับการ์ดแต่งงานลายหินอ่อนได้รับความนิยมลดลงแล้ว เพราะคู่รักหลายคนให้ความเห็นว่าได้รับการ์ดแต่งงานลายนี้มาหลายงานแล้ว ทำให้โทนการออกแบบการ์ดแต่งงานกลับไปสู่ความเป็น Minimal ดอกไม้ และ Botanic ส่วนสียังคงเน้นสีน้ำเงินกรมท่า สีเทา และสีดัสตี้บลู อย่างไรก็ตามนอกจากการเลือกสีและออกแบบลวดลาย คู่รักสามารถฉีกกรอบการดีไซน์รูปทรงของการ์ด ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้เป็นรูปทรงอื่นๆได้ อาทิ รูปเปลือกหอย แต่การ์ดที่มีการสั่งทำพิเศษแบบนี้จะต้องเพิ่มเวลาในการจัดทำอย่างน้อย 3 สัปดาห์ คุณรัฐาย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนทำขั้นตอนต่างๆคือ คู่รักต้องเลือกธีมสีและธีมงานให้ลงตัวก่อน เพราะจะทำให้งานทุกอย่างออกมาลงตัวมากที่สุด สามารถเข้าไปเลือกแบบการ์ดสวยๆตามสไตล์ และขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ FB : @GoingMarryWGC
คู่รักคู่ไหน ยังตัดสินใจเลือกไม่ถูก มาปรึกษากูรูด้านงานวิวาห์ที่ให้คำแนะนำคู่รักมาแล้วนับไม่ถ้วน ภายในงาน Wedding Fair by NEO ระหว่าง วันที่ 13-16 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่ เวลา 11.00-21.00 น. สถานที่จัดงาน ฮอลล์ 3 รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษเพื่อทุกคู่รัก ลุ้นรางวัลแพคเกจฮันนีมูนมัลดีฟส์ และทะเบียนสมรสทองคำ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Weddingfairbyneo/