รองศาสตราจารย์อดุลย์ ตะพัง รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา กล่าวว่า กองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลนักศึกษาเพื่อให้เป็นบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนานักศึกษาให้มีจิตสำนึกของการเป็นผู้รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลต่อผู้อื่น โดยเฉพาะการมีจิตสำนึกสาธารณะในการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเป็นแนวทางการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคมโดยส่วนรวมเพื่อผู้อื่น ด้วยการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
"แม้ปัจจุบันมีผู้สนใจบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก แต่โลหิตที่ได้รับยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้โลหิตจากทั่วประเทศ ซึ่งโลหิตที่ได้รับบริจาคจะถูกนำไปใช้ทดแทนโลหิตที่สูญเสียไปในภาวะต่างๆ เช่น อุบัติเหตุ การผ่าตัดใหญ่ การนำไปใช้เฉพาะโรคเลือด ฯลฯ โดยที่ผ่านมากองกิจการนักศึกษา ม.ร. ร่วมกับสภากาชาดไทย รณรงค์ให้นักศึกษาเข้าร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ได้โลหิตสำรองที่เพียงพอต่อผู้ป่วยทั้งภาวะปกติและภาวะวิกฤต"
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา กล่าวต่อไปว่า การจัดโครงการครั้งนี้ เพื่อนำโลหิตไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้อื่น และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี รวมทั้งเป็นการเฉลิมพระเกียรติ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีค่ะปวงพสกนิกรชาวไทย ทั้งยังส่งเสริมให้บุคลากร นักศึกษา และประชาชน เห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำความดีโดยการเสียสละเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ส่งเสริมและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนปลูกฝังให้เป็นคนดี มีความรู้คู่คุณธรรม และเป็นจิตอาสาทำความด้วยด้วยหัวใจต่อไป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า "การบริจาคโลหิต ถือเป็นการทำความดีด้วยจิตใจที่เสียสละโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระราชทานโครงการจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ขอชื่นชมกองกิจการนักศึกษาและสภากาชาดไทย ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตและเห็นว่าทุกภาคส่วนของสังคมควรมีบทบาทในการร่วมมือกันจัดกิจกรรมดีๆ เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักการแบ่งปัน เสียสละ และประพฤติตนเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมต่อไป"