ก.แรงงาน เปิดคอร์ส ติวเข้มกุ๊กอาหารไทย หนุนครัวไทยสู่ครัวโลก

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า อาหารไทยเป็นที่เชิดหน้าชูตาคนไทยมาตลอด และรัฐบาลให้ความสำคัญมากคือเอกลักษณ์และรสชาติอาหารไทย กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้นำเรื่องครัวไทยสู่ครัวโลก มาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม ทำให้เกิดการสร้างงานขึ้นมา สามารถทำให้อาหารไทยออกสู่ครัวโลก ทั้งการยกระดับทักษะฝีมือให้เป็นไปตามมาตรฐานอาหารไทย ด้วยการบูรณาการกับหลายหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารไทย พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้ความสำคัญดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้ และพัฒนาทักษะให้กับแรงงานในพื้นที่ รวมถึงแรงงานที่มีความประสงค์ไปทำงานร้านอาหารในต่างประเทศด้วย

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ยุโรปในเวลานี้มีร้านอาหารไทยกว่า 2,000 แห่ง ขณะที่ทั่วโลกมีร้านอาหารไทยกว่า 20,000 ร้าน และยังมีพ่อครัวคนไทยอยู่ในที่ต่างๆ 168 แห่งทั่วโลก และยังมีเรือสำราญอีก 55 ลำ ที่จ้างพ่อครัวแม่ครัวไทยไปประกอบอาหาร โดยมีรายได้เดือนละ 40,000-90,000 บาท สร้างรายได้ส่งกลับประเทศกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ความต้องการพ่อครัว แม่ครัวด้านอาหารไทยจึงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยงานของกพร. ได้เริ่มประกาศรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าฝึกทักษะด้านอาหารไทย อาทิ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานศรีสะเกษ ได้เปิดรับสมัครเยาวชน และบุคคลทั่วไป เข้ารับการฝึกวิชาชีพ สาขาการประกอบอาหารไทย ระยะเวลาการฝึก ในสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานศรีสะเกษจำนวน 2 เดือน และฝึกในสถานประกอบกิจการอีก 1 เดือน เริ่มฝึกอบรมตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 สำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขา ผู้ประกอบอาหารไทย ระดับ 1 จะได้ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ โดยระดับ 1 อัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าวันละ 400 บาท และระดับ 2 จะได้รับค้าจ้างไม่ต่ำกว่าวันละ 510 บาท

"นอกจากนั้น ยังมีการเปิดฝึกอบรมในสาขาอื่นๆ ด้วย เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์ , ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ,ช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร, สาขาช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กและสาขาพนักงานนวดไทย ทุกคอร์สไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและมีที่พักฟรี สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มงานพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานศรีสะเกษ โทร. 045-615864 ต่อ.129 หรือสมัครผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ https://forms.gle/9rHHGpoiQF31dSWV6 ส่วนในจังหวัดอื่นๆ มีเปิดอีกหลายสาขาเช่นกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 กด 4" อธิบดีกพร.กล่าว