นายเทยเลอร์เปิดเผยว่า ทีมจากซิลิคอนวัลเลย์จะยังเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัท แม้ว่าจะมีการปลดพนักงานจำนวน 17 ตำแหน่ง โดยทีมงานกำลังร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอนาคตและรถยนต์รุ่นใหม่
Seres ก่อตั้งสำนักงานที่สหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงต้นปี 2559 และบริษัทได้ตัดสินใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีหลักของรถยนต์ EV ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของซิลิคอนวัลเลย์
นายเทย์เลอร์กล่าวว่า หลังจากใช้เวลาบ่มเพาะธุรกิจมา 3 ปี บริษัท Seres ซึ่งตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ได้สร้างรูปแบบการพัฒนาระดับโลกใน 4 ประเทศ โดยมีซิลิคอนวัลเลย์เป็นแกนกลางหลัก และดำเนินการวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับเทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ การควบคุมไฟฟ้า และแบตเตอรี่
นอกจากนี้ เขาเสริมว่า บริษัทกำลังยื่นขอรับสิทธิบัตรทางเทคนิคสำหรับผลงานความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของบริษัทมากกว่า 1,000 รายการ ในประเทศจีนหรือสหรัฐอเมริกา
เทย์เลอร์ยังเผยด้วยว่า เขาจะพบปะกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของสหรัฐ เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับความร่วมมือในสาขารถยนต์ระบบไฟฟ้า
ทั้งนี้ ในระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสของเจนเนอรัล มอเตอร์ส เทย์เลอร์เป็นผู้นำด้านการออกแบบนวัตกรรมและการยกระดับเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ของ Cadillac ซึ่งถือเป็นการฟื้นแบรนด์ให้กลับมาอีกครั้ง
เทยเลย์ยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับรายงานของสื่อที่ระบุว่า บริษัทได้เลิกจ้างพนักงานจำนวน 90 คนประจำสำนักงานในซิลิคอนวัลเลย์ โดยเขาอธิบายว่า มีการเลิกจ้างงานเพียง 47 ตำแหน่งในสหรัฐ และเป็นเรื่องจำเป็นที่บริษัทจะต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนตามแผนธุรกิจใหม่ รวมถึงสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง
ในขณะเดียวกัน เขากล่าวว่า "Seres ตัดสินใจที่จะชะลอการเปิดตัวรถยนต์ครอสโอเวอร์ SF5 ในสหรัฐ เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดยานยนต์สหรัฐ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในจีน" และเมื่อสภาพตลาดดีขึ้น จึงจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในสหรัฐ
Seres ซึ่งมีชื่อเดิมว่า SF Motors เป็นหน่วยธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของ Sokon Industry Group (Sokon) ในนครฉงชิ่ง ของจีน