Digital Realty (NYSE: DLR) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นศูนย์ข้อมูล การให้เช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ และการเชื่อมต่อโครงข่าย ประกาศว่า บริษัทได้ทำสัญญาซื้อที่ดินในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อการพัฒนาศูนย์ข้อมูลแบบ Carrier-Neutral แห่งใหม่ ซึ่งจะตั้งอยู่ภายใน Sangam Digital Media City ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโซล ซึ่งเป็นเขตวางผังเมืองที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นแหล่งรวมบริษัทด้านสื่อและเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของเกาหลีใต้
บริษัทซื้อที่ดินขนาด 22,000 ตารางฟุตหนึ่งแปลงจากรัฐบาลกรุงโซล เพื่อรองรับการพัฒนาประสิทธิภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Capacity) สูงสุดถึง 12 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าการก่อสร้างจะเริ่มต้นภายในอีกไม่กี่เดือน และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2021
เอ. วิลเลียม สไตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดิจิทัล เรียลตี้ กล่าวว่า "การเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้นับเป็นหมุดหมายสำคัญในขณะที่เรายังคงเดินหน้าขยายการดำเนินงานทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เกาหลีใต้มีความพร้อมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นดิจิทัลฮับ และศูนย์กลางสำหรับนวัตกรรมภายในภูมิภาค เมื่อพิจารณาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในส่วนของบิ๊กดาต้า บริการมือถือ และอุปกรณ์เชื่อมต่อ การลงทุนในเกาหลีแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านดิจิทัลระดับโลกอย่างแท้จริง"
เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้จะครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 129,000 ตารางฟุต และจะมี 10 ชั้นเหนือพื้นดิน และอีก 3 ชั้นใต้ดิน ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่จะให้บริการการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้า ด้วยเส้นทางการส่งข้อมูลแบบใยแก้วที่ปลอดภัยและหลากหลายผ่านทางพันธมิตรทางธุรกิจ
มาร์ก สมิท กรรมการผู้จัดการ ดิจิทัล เรียลตี้ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า"เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในตลาดศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และเราดีใจที่สามารถช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศ ตลอดจนนำคุณประโยชน์และคุณค่ามาสู่ลูกค้าของเราในภูมิภาคนี้ รวมไปถึงทั่วโลก กรุงโซลเป็นหนึ่งในมหานครขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นบ้านของชาวเกาหลีใต้กว่าครึ่งหนึ่งด้วยประชากรมากกว่า 25 ล้านคน กรุงโซลเป็นทำเลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของเราในเกาหลีใต้ พร้อมรองรับการนำโซลูชั่น Carrier-Neutral ที่โดดเด่นของเรามาตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศและทั่วโลก"
ดิจิทัล เรียลตี้ เป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้ดำเนินการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก การพัฒนาศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ในโซลจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานของดิจิทัล เรียลตี้ ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งบริษัทมีเครือข่ายศูนย์ข้อมูลชั้นนำอยู่ในโตเกียว โอซากา ฮ่องกง สิงคโปร์ ซิดนีย์ และเมลเบิร์น ในปี 2018 ดิจิทัล เรียลตี้ ให้บริการด้วยความเสถียรที่ระดับ "Five Nines" เป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน โดยระบบคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ต่อเนื่องมากกว่า 2.1 พันล้านนาที ครอบคลุมศูนย์ข้อมูลทั่วโลกที่ดิจิทัล เรียลตี้ เป็นเจ้าของและดำเนินการ
เกี่ยวกับ ดิจิทัล เรียลตี้
ดิจิทัล เรียลตี้ ให้การสนับสนุนด้านศูนย์ข้อมูล การให้เช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ และการเชื่อมต่อโครงข่ายแก่องค์กรกว่า 2,000 แห่งทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป ลาตินอเมริกา เอเชีย และออสเตรเลีย ผ่านเครือข่ายศูนย์ข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงของบริษัท ลูกค้าของดิจิทัล เรียลตี้ เป็นบริษัททุกขนาดจากทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ผู้ให้บริการคลาวด์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไปจนถึงบริการทางการเงิน การผลิต พลังงาน บริการสุขภาพ และสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่ www.digitalrealty.com หรือติดตามดิจิทัล เรียลตี้ ได้ทางโซเชียลมีเดีย: LinkedIn, Twitter, Facebook, Instagram และ YouTube
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Andrew P. Power
Chief Financial Officer
Digital Realty
(415) 738-6500
นักลงทุนสัมพันธ์
John J. Stewart
Digital Realty
(415) 738-6500
สื่อมวลชนสัมพันธ์
John Christiansen / Scott Lindlaw
Sard Verbinnen & Co.
(415) 618-8750
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ (Safe Harbor Statement)
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคต ที่อ้างอิงจากความคาดหวัง การคาดการณ์ และสมมติฐาน ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการที่อาจทำให้ผลลัพธ์แท้จริงออกมาแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยครอบคลุมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับการซื้อที่ดินใน Seoul Sangam Digital Media City (DMC), แผนการพัฒนาศูนย์ข้อมูล ICN10 Seoul และการคาดการณ์ถึงความต้องการใช้บริการศูนย์ข้อมูลในเกาหลีใต้ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ประกอบด้วยหลากหลายประการ ซึ่งรวมถึงดังต่อไปนี้: ความต้องการใช้บริการศูนย์ข้อมูลลดลง หรือการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศลดลง; อัตราการเช่าลดลง, ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น หรืออัตราพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้น; การแข่งขันเพิ่มขึ้น หรือการมีพื้นที่ว่างในศูนย์ข้อมูลพร้อมให้บริการ; ความเหมาะสมของศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างศูนย์ข้อมูลของเรา, การเชื่อมต่อล่าช้าหรือหยุดชะงัก หรือการมีไฟฟ้าพร้อม, หรือความล้มเหลวหรือความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลและทางกายภาพ ตลอดจนบริการต่าง ๆ; การพึ่งพาลูกค้ารายสำคัญ, การล้มละลายของลูกค้ารายใหญ่ หรือการที่ลูกค้าลดจำนวนลงอย่างมีนัยสำคัญ, หรือการที่ลูกค้าผิดนัดชำระค่าเช่าหรือไม่ต่อสัญญาเช่า; การละเมิดข้อผูกพันหรือข้อกำหนดภายใต้สัญญาของเรากับลูกค้า; การที่เราไม่สามารถพัฒนาและให้เช่าทรัพย์สินและพื้นที่พัฒนาใหม่ ๆ, และความล่าช้าหรือค่าใช้จ่ายในการพัฒนาทรัพย์สินที่นอกเหนือไปจากที่คาดการณ์ไว้; ผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจ สินเชื่อ และตลาดปัจจุบันทั้งในประเทศและทั่วโลก; การที่เราไม่สามารถรักษาพื้นที่ศูนย์ข้อมูลที่เราให้เช่าหรือเช่าต่อจากบุคคลที่สาม; ความยุ่งยากในการจัดการธุรกิจต่างประเทศและซื้อหรือดำเนินการทรัพย์สินในต่างประเทศและในเขตมหานครที่ไม่คุ้นเคย; การที่เราไม่สามารถทำประโยชน์ที่ตั้งใจไว้ หรือการหยุดชะงักของแผนการหรือการดำเนินงานของเรา หรือหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการของเรา; ความล้มเหลวในการควบรวมและบริหารทรัพย์สินหรือธุรกิจที่ซื้อมาหรือที่พัฒนา; ความยากลำบากในการหาทรัพย์สินเพื่อซื้อและการดำเนินการซื้อให้แล้วเสร็จ; ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจร่วมทุน รวมถึงผลสืบเนื่องจากการที่เราไม่มีสิทธิควบคุมการลงทุนดังกล่าว; ความเสี่ยงเกี่ยวกับการใช้หนี้เพื่อเป็นทุนสำหรับดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น การรีไฟแนนซ์ และความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ย, การที่เราไม่สามารถชำระหนี้เมื่อถึงกำหนด, การเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในอันดับเครดิต หรือการละเมิดข้อสัญญาหรือเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ระบุอยู่ในข้อตกลงและวงเงินกู้; การที่เราไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้และหุ้นกู้ที่จำเป็น และการที่เราพึ่งพาแหล่งทุนภายนอก; ความผันผวนของตลาดการเงินและการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ; สถานการณ์ไม่พึงประสงค์ทางเศรษฐกิจหรืออสังหาริมทรัพย์ในอุตสาหกรรมหรือภาคอุตสาหกรรมที่เราขาย ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลดลงของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ และการด้อยค่าและค่าความนิยม และการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้; การที่เราไม่สามารถดูแลการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ; ความเสียหายส่วนเกินของความคุ้มครองประกัน; ความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ; การที่เราไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ; การที่เราไม่สามารถคงสถานะ REIT เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษีเงินได้; การที่ห้างหุ้นส่วนของเราไม่ผ่านคุณสมบัติเพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษีเงินได้; ข้อจำกัดที่มีต่อความสามารถของเราในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจบางประการ; และการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อกำหนดท้องถิ่น รัฐ รัฐบาลกลาง และระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงที่เกี่ยวข้องกับ กฎหมายภาษี อสังหาริมทรัพย์ และกฎหมายควบคุมอาคาร และการเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีอสังหาริมทรัพย์ สำหรับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ สามารถดูได้จากรายงานและเอกสารต่าง ๆ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2018 และรายงานประจำไตรมาส Form 10-Q สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2019 บริษัทขอปฏิเสธความรับผิดชอบในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคต แม้ว่าจะมีข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรือไม่ก็ตาม
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/952008/Digital_Realty_Expands_into_South_Korea.jpg