นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า ในขณะเกิดเหตุ สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ได้ประสานและให้คำแนะนำสำนักงานเขตบึงกุ่มในการระงับเหตุฉุกเฉินสารเคมีจากการลักลอบทิ้งในพื้นที่เอกชนริมถนนประเสริฐมนูกิจ พบสารเคมีมีลักษณะเป็นของแข็งเกิดการลุกไหม้เมื่อถูกความชื้น บรรจุในถุงจำนวน ๑๒ ถุง สันนิษฐานเบื้องต้นเป็นสารกลุ่มแคลเซียมคาร์ไบด์ (Calcium carbide) สำหรับบ่มผลไม้หรือกลุ่มอลูมิเนียมฟอสไฟด์ (Aluminum phophide) ใช้สำหรับการรมผลิตผลเกษตรเพื่อกำจัดแมลง โดยให้กั้นพื้นที่เกิดเหตุรัศมี ๕๐ เมตร และหลังเกิดเหตุได้ติดตามตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบจุดเกิดเหตุ พบสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย ไม่พบการปนเปื้อนสารเคมีในสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงในรัศมี 50 เมตร
ด้าน นางสาวศศิชา ทับทิม ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ หน่วยกู้ชีพนพรัตน์ราชธานี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่ม สำนักอนามัย และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เข้าตรวจสอบการลักลอบทิ้งสารเคมี รวมทั้งได้กำจัดและควบคุมให้หมดปฏิกิริยาทางเคมี โดยขุดหลุมและนำสารเคมีหย่อนลงไปในหลุม พร้อมฉีดน้ำเพื่อให้ปฏิกิริยาทางเคมีหมดไปและใช้ทรายแห้งฝังกลบ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบ พบสภาพดิน น้ำ และอากาศ ไม่มีสารเคมีหรือมลพิษปนเปื้อน ไม่ก่อให้เกิดอันตรายและส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราพื้นที่ ป้องกันปัญหาการลักลอบทิ้งขยะในพื้นที่รกร้าง โดยจัดเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะที่มี ผู้นำมาลักลอบทิ้งในบริเวณดังกล่าว ดำเนินการล้อมรั้วปิดกั้นพื้นที่ชั่วคราว เพื่อไม่ให้มีผู้ลักลอบทิ้งขยะ และประสานแจ้งเจ้าของที่ดิน ปิดล้อมรั้วถาวร รวมถึงติดตั้งป้ายประกาศห้ามลักลอบทิ้งขยะ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจตรา เฝ้าระวัง และกวดขันไม่ให้มีการลักลอบทิ้งขยะในบริเวณดังกล่าวอีกต่อไป