ปัญหาหลักที่แม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทยกำลังเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือการต้องทนทุกข์ทรมาน จากการเลี้ยงแบบบังคับให้ยืนซองทั้งชีวิต พวกมันถูกใช้เป็นเพียงเครื่องมือสืบพันธุ์ ต้องใช้ทั้งชีวิตอยู่ในกรงเหล็กที่มีขนาด เท่าตู้เย็นขนาดเล็ก ไม่สามารถแม้กระทั่งจะกลับตัวไปมาด้วยตัวเอง ทั้งยังต้องพบกับความเจ็บปวดทางร่างกายอย่างแสนสาหัส รวมถึงมีความเครียดสะสมอันเกิดจากการที่พวกมันไม่สามารถแสดงพฤติกรรมสัตว์ตามธรรมชาติได้เลย แม้ว่าปัจจุบันผู้ประกอบการฟาร์มบางส่วนจะเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงหมูในฟาร์มโดยคำนึงถึงสวัสดิภาพที่ดีของสัตว์มากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่สำเร็จ หากซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปรียบเสมือนคนกลางในการนำเนื้อหมูมาจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคในวงกว้าง ไม่ให้ความร่วมมือ
นายโชคดี สมิทธิ์กิตติผล ผู้จัดการแคมเปญ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า "ตั้งแต่เราดำเนินโครงการ เลี้ยงหมูด้วยใจ #RaisePigsRight เราได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเลี้ยงหมูรายใหญ่ที่ได้เข้าร่วมโครงการรณรงค์ฯ อาทิ ซีพีฟู้ดและเบทาโกร แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็เป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เพื่อให้เรามั่นใจว่าแม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทยจะมีชีวิตและได้รับสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะระบบการเลี้ยงแบบรวมกลุ่ม และการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ขั้นสูงนั้นได้รับการพิสูจน์จากทั่วโลกแล้วว่า สามารถยกระดับคุณภาพผลผลิตให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้หมูมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้นเราจึงจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อมุ่งให้เกิดการเปลี่ยน ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด มีคนสนใจสอบถามรายละเอียดและร่วมลงชื่อสนับสนุนกับเราเป็นจำนวนมาก"
สราลี จิตรเกษมพร นักศึกษา ที่ได้เข้าร่วมชมกิจรรมโรดโชว์ แสดงความคิดเห็นว่า "หนูกับเพื่อนๆไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่หมูมีชีวิตที่ลำบากขนาดนี้ พอเห็นภาพและรู้เรื่องทำให้หนูกับเพื่อนๆก็อยากมีส่วนร่วมรณรงค์เพื่อให้แม่หมู
มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ค่ะ"
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ชวนเชิญร่วมรณรงค์ และเรียกร้องให้ซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ร่วมยุติความทารุณ
ที่เกิดขึ้นกับแม่หมูยืนซองนับล้านตัวอย่างเร่งด่วน โดยสามารถเข้าไปลงชื่อได้ทาง www.worldanimalprotection.or.th
เกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือ World Animal Protection เป็นองค์กรเพื่อคุ้มครองปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ และยุติการทารุณกรรมสัตว์ อย่างถาวร โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 มีบทบาทในการให้คำปรึกษากับองค์การสหประชาชาติและสภายุโรป ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ สร้างความแตกต่างให้สัตว์ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทารุณกรรม ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยดำเนินงานครอบคลุมทั้งสัตว์ในชุมชน – สุนัข , สัตว์ป่า, สัตว์ประสบภัยพิบัติ – ช่วยเหลือสัตว์ ในภาวะภัยพิบัติ การจัดหาอาหาร ที่อยู่และยารักษาโรคให้กับสัตว์, สัตว์ในฟาร์ม รวมถึงการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์ที่มีมนุษยธรรมอันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนและสัตว์ ข้อมูลเพิ่มเติม www.worldanimalprotection.or.th /