แนะมหา’ลัยทำวิจัยคุณภาพ-มีผลกระทบสูง แก้วิกฤติขาดแคลนนักศึกษา

จันทร์ ๒๖ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๕:๕๓
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

นักวิชาการชี้ทางออกให้มหาวิทยาลัยไทยหลังเผชิญปัญหาจำนวนนักศึกษาลดลง ควรทำงานวิชาการที่มีคุณภาพ และมีผลกระทบสูง ตอบโจทย์พื้นที่ จังหวัดอุตสาหกรรม สวมวิญญาณนักพัฒนาคิดโจทย์วิจัย แบบดักทางเพื่อ สร้างสมดุล มนุษย์ ธรรมชาติ และเทคโนโลยี อย่างยั่งยืน

จากกรณีที่ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวถึงเรื่อง "การปรับเปลี่ยนประเทศด้วยปัญญาจากฐานราก" เนื่องจากโลกรวมถึงประเทศไทยอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน จาก Modernism ที่เน้นความทันสมัย มาสู่การสร้างความมั่งคั่งมั่นคงร่วมกันอย่างสมดุลในทุกภาคส่วน ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และปัญญามนุษย์เป็นสำคัญ

ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาของไทยและของโลกในอดีต คือการไม่บาลานซ์ใน 3 สิ่ง คือ ความไม่สมดุลระหว่าง "ธรรมชาติกับมนุษย์" "ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์" และ "ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี" เพราะฉะนั้นโจทย์วิจัย โจทย์ของประเทศในอนาคต คือการนำพาประเทศไปสู่สมดุลระหว่าง 3 สิ่งนี้ โดยมหาวิทยาลัยต้องทำงานตอบโจทย์สังคม ตอบโจทย์ประเทศ ไม่ใช่ตอบโจทย์ตัวเอง

ด้าน ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย กรรมการและเลขานุการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม และกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับประเทศขณะนี้เปรียบเสมือนพายุลูกใหญ่ ที่ไม่ใช่เกิดขึ้นจากภาคนโยบาย แต่เกิดขึ้นจากกระแสของโลกที่ทุกประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลกระทบนี้เต็มๆ จากการลดของจำนวนนักศึกษา ยังไม่นับรวมปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กำลังถดถอย สิ่งเหล่านี้ทำให้สถานะทางการเงินการคลังของประเทศเริ่มหดตัวลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงแค่ไหน นักวิจัย นักวิชาการ ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่รู้ว่าประเทศควรจะเตรียมการรับมือ ป้องกันปัญหาอย่างไร ต้องช่วยกันคิดและทำตั้งแต่ตอนนี้

ในส่วนของมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะอยู่ยาก แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้เพราะทางออกของมหาวิทยาลัยแทบจะมีทางเดียวคือ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะต้องช่วยกันทำโครงการวิจัยที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ ซึ่งแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยรวมถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏต่างๆ จะต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง จากเดิมที่มุ่งผลิตนักศึกษาเพียงอย่างเดียว มาเป็นการสร้างคนไปพร้อมกับการพัฒนาพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาท้องถิ่น และในอนาคตอาจจะมีการพัฒนา University engagement index มาเป็นเครื่องมือวัดระดับการทำงานของมหาวิทยาลัยว่า ตอบโจทย์พื้นที่ ชุมชน จังหวัด และอุตสาหกรรมได้แค่ไหน และการประเมินให้คะแนนนี้อาจนำไปสู่การพิจารณางบประมาณที่จะได้รับในปีต่อๆ ไปอีกด้วย

"นอกจากนี้ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นนักวิจัยที่คิดโจทย์ดักทาง-คิดแบบนักพัฒนา จะคิดทำเฉพาะส่วนงานที่ตัวเองรับผิดชอบไม่ได้อีกแล้ว นักวิจัยที่ดีต้องคิดว่าบ้านเมืองต้องการอะไร ต้องคิดดักทางไปข้างหน้าว่าทำงานวิจัยเรื่องนี้แล้วใครจะเป็นผู้ใช้ประโยชน์ ใช้แบบไหน ใช้แล้วจะเกิดปัญหาชุดใหม่ที่ต้องไปตามแก้หรือไม่ จุดจบของปัญหาอยู่ตรงไหน ยังมีอะไรที่สามารถใช้กระบวนการวิจัยไปปลดล็อกปัญหาในอนาคตได้หรือไม่ ดังนั้นนักวิจัยจะต้องวิเคราะห์ ประเมินความเสี่ยง แล้วเตรียมดักปัญหาด้วยการออกแบบงานวิจัย ถ้าทำอย่างนี้ได้แม้วันนี้ต่อให้ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยทันที แต่วันข้างหน้าต้องได้ใช้แน่นอน เพราะเราทำดักทางไว้แล้ว" ดร.สีลาภรณ์ กล่าวในตอนท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4