'ประภัตร’ เดินสายเกาะติดสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร สั่งเข้มตั้งจุดตรวจ 3 จว.อีสานสกัดโรค

จันทร์ ๐๗ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๓๘
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อประชุมหารือติดตามมาตรการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever หรือ ASF) โดยจุดแรกเดินทางไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ตามลำดับ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วม

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากรายงานขณะนี้มีการพบโรคแพร่ระบาดในสุกรใน 27 ประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดชายแดนประเทศไทย ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา (ยกเว้นมาเลเซีย) อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุกรของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว โดยกรมปศุสัตว์ได้เฝ้าระวังติดตามอย่างเข้มงวด ซึ่งประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อม โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศจีนเริ่มเกิดการระบาดของโรคดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมปศุสัตว์ ได้มีมาตรการการควบคุมและป้องกันโรค ASF มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ 1. ด้านการเตรียมความพร้อม จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและแนวเวชปฏิบัติของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร นอกจากนี้รัฐบาลยกระดับแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นวาระแห่งชาติ และมีการจัดตั้ง War Room ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ส่วนกลาง มีอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธาน และส่วนภูมิภาคมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อขับเคลื่อนมาตรการ ซ้อมแผนรับมือโรคฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการตรวจวินิจฉัย ตลอดจนร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ OIE , FAO จัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลการเฝ้าระวังและป้องกันโรคฯ 2. ด้านมาตรการในการป้องกัน มีการประกาศระงับการนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์จากสุกรจากประเทศที่มีการระบาดของโรค รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนในป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสุกร ผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศ 3. ด้านมาตรการการเฝ้าระวัง จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ X-Ray เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังทางอาการ ขึ้นทะเบียนและประเมินความเสี่ยงด้วยแอพลิเคชั่น อี -สมาร์ทพลัส พร้อมให้คำแนะนำความรู้เรื่องโรคและการป้องกัน

นอกจากนี้ ความแตกต่างทีไทยต่างจากประเทศอื่นๆ ให้ความสำคัญในการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมจัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Contigency Plan) ทำให้มาตรการต่างๆ ในการป้องกันโรคสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น จัดทำโรงพ่นยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค ที่ด่านชายแดนที่สำคัญ 5 แห่ง ร่วมสนับสนุนเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ และยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ในการพ่นยาฆ่าเชื้อให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันโรค ร่วมสนับสนุนการจัดงานสัมมนาให้ความรู้เรื่องโรคและการป้องกันโรคให้กับเกษตรกรรายย่อย เข้มงวดในการส่งออกสุกร ลดความเสี่ยงจากการส่งออกสุกร โดยรถขนส่งสุกรมีชีวิตที่ใช้ภายในประเทศห้ามไม่ให้ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีการระบาดของโรค ASF ซึ่งมีการเปลี่ยนถ่ายสุกรบริเวณชายแดน และให้รถขนส่งสุกรที่ใช้เฉพาะไปยังประเทศเพื่อน (ห้ามมาใช้ขนส่งสุกรภายในประเทศ) ร่วมมือกับภาครัฐรับซื้อหมูจากเกษตรกรรายย่อยที่มีความเสี่ยงนำไปในราคาตลาด ที่เป็นธรรมนำมาเชือดเพื่อแปรรูปปรุงสุกหรือฝังทำลาย ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือที่ผู้ประกอบรายใหญ่ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้มีรายได้ป้องกันความสูญต่อเกษตรกรรายย่อย

"การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ของโรค ASF และมาตรการป้องกันที่ต้องเข้มงวดอย่างสูง จึงได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะทำงานในการตั้งด่านตรวจป้องกันโรค โดยมีกรมปศุสัตว์เป็นเลขานุการ พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เสริมในแต่ละด่าน ซึ่งจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชาแดนนั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันโรคดังกล่าว ที่สำคัญคือความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงาน จึงทำให้ไทยเป็นประเทศที่ไม่มีการเกิดโรค ASF " นายประภัตร กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้