UAE และ UNESCO ต่อสัญญาพันธมิตร ขยายความร่วมมือฟื้นฟูโบสถ์ประวัติศาสตร์ในเมืองโมซูล

อังคาร ๑๕ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๕๕
- UAE เป็นประเทศแรกของโลกที่เข้าไปฟื้นฟูโบสถ์คริสต์ในอิรัก

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ต่อสัญญาความร่วมมือในโครงการระดับเรือธง Revive the Spirit of Mosul เพื่อขยายความเป็นหุ้นส่วนบูรณะฟื้นฟูโบราณสถานในเมืองโมซูล ประเทศอิรัก

โอกาสนี้ HE Abdulrahman Hamid al-Husseini ทูตอิรักประจำประเทศฝรั่งเศส, HE Dr. Mohamed Ali Al Hakim ผู้ช่วยเลขาธิการและเลขาธิการฝ่ายบริหารของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมเอเชียตะวันตกแห่งสหประชาชาติ (ESCWA), Brother Nicolas Tixier นักบวชคณะโดมินิกันประจำแคว้นฝรั่งเศส รวมถึง Brother Olivier Poquillon เลขาธิการคณะกรรมการที่ประชุมบิชอปแห่ง EU, HE Noura Al Kaabi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและพัฒนาความรู้ของ UAE และ Audrey Azoulay ผู้อำนวยการองค์การ UNESCO ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงฉบับใหม่ที่สำนักงานใหญ่ UNESCO ในกรุงปารีส เพื่อตอกย้ำความพยายามในการฟื้นฟูสถานที่ทางวัฒนธรรมที่ถูกทำลาย 2 แห่ง ได้แก่ โบสถ์ Al-Tahera และ Al-Saa

ข้อตกลงฉบับนี้มีขึ้นในช่วงที่ UAE สนับสนุนให้ปี 2019 เป็นปีแห่งความอดกลั้น เพื่อเน้นย้ำว่าการอดกลั้นเป็นแนวคิดสากลและความบากบั่นที่ยั่งยืน.

โครงการนี้เป็นการต่อสัญญาความตกลงฉบับเดิมที่ลงนามกันในเดือนเมษายน 2018 ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะให้เงินสนับสนุน 50.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างสถานที่ทางวัฒนธรรมขึ้นมาใหม่ในเมืองโมซูล โดยโครงการในระยะแรกเริ่มเกี่ยวข้องกับการบูรณะปฏิสังขรณ์มัสยิด Al-Nouri และหอคอยสุเหร่า Al-Hadba

การขยายความร่วมมือจะครอบคลุมถึงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถาน ซึ่งใช้จัดแสดงและอนุรักษ์เศษซากปรักหักพังที่เหลือ พร้อมสถานชุมชนและการศึกษา ตลอดจนการสร้างงานสำหรับชาวโมซูลกว่า 1,000 ตำแหน่ง โดยอาคารใหม่ๆ จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่ยั่งยืนสำหรับลูกจ้างในโครงการ และช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในอิรัก ซึ่งนับจนถึงตอนนี้ โครงการดังกล่าวมีการจ้างพนักงานชาวอิรักแล้ว 27 คน และเซ็นสัญญากับบริษัทอิรัก 4 แห่ง ด้วยความพยายามที่จะส่งเสริมการเติบโตในขณะที่โครงการมีความคืบหน้า UAE ยังเข้าไปพูดคุยกับคนท้องถิ่นเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมุมมองต่อโครงการฟื้นฟูสถานที่ทางวัฒนธรรมนี้ด้วย

HE Noura Al Kaabi กล่าวในพิธีลงนามว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนกับ UNESCO และอิรัก งานของเรากับ UNESCO คือพันธสัญญาของ UAE ในการส่งเสริมโครงการขององค์การ UNESCO การลงนามในวันนี้ถือเป็นการบุกเบิกความร่วมมือที่ให้แสงสว่างในช่วงเวลาอันมืดมิด และในขณะที่เราเริ่มต้นงานก่อสร้างนี้ UAE ก็ได้กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่เข้าไปสร้างโบสถ์คริสต์ขึ้นใหม่ในอิรัก"

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1010007/UAE_UNESCO_Partnership.jpg

ติดต่อ:

Aamna Iqbal

อีเมล [email protected]

โทร. +971-52-408-3854

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา