กลุ่ม KTIS เร่งสร้างโรงงานผลิตภาชนะชานอ้อย ดันสัดส่วนรายได้สายธุรกิจชีวภาพโตต่อเนื่อง

จันทร์ ๒๘ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๓๔
กลุ่ม KTIS หวังโรงงานผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อยมูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้สายธุรกิจชีวภาพเติบโตจนใกล้เคียงกับรายได้สายธุรกิจน้ำตาล ลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำตาลในตลาดโลกได้ เผยขณะนี้เริ่มก่อสร้างโรงงานและคัดเลือกเครื่องจักร กำลังการผลิต 50 ตันหรือประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อวัน คาดรับรู้รายได้ภายในปี 2563 มั่นใจไม่มีปัญหาด้านการตลาด เพราะกระแสรักสิ่งแวดล้อมมาแรง เชื่อปี 2563 ผลการดำเนินงานเติบโตจากสายธุรกิจชีวภาพทั้งโรงไฟฟ้า เอทานอล เยื่อกระดาษ ประกอบกับราคาน้ำตาลผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่ม KTIS ได้ตั้งบริษัท เอ็นไวรอนเม็นท์พัลพ์ แอนด์ แพ็คเกจจิ้ง จำกัด เพื่อดำเนินโครงการผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อยเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยร่วมลงทุนกับ บริษัท ยูเรเซีย ไลท์ อินดัสตรี อีควิปเม้นท์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด จากประเทศจีน ในสัดส่วน กลุ่ม KTIS 85% และ ยูเรเซียฯ 15% นั้น ขณะนี้ได้เริ่มการก่อสร้างโรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์แล้ว ในขณะเดียวกัน ก็ได้เร่งกระบวนการคัดสรรเครื่องจักรที่เหมาะสมสำหรับผลิตภาชนะจากเยื่อชานอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ผลิตได้หลากหลายรูปทรง และมีคุณภาพสูง

ทั้งนี้ ภาชนะจากเยื่อชานอ้อยที่โรงงานใหม่สามารถผลิตได้นั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น จาน ถ้วย ชามหลุม กล่องใส่อาหาร เป็นต้น โดยมีกำลังการผลิต 50 ตันต่อวัน เทียบเท่ากับจำนวนภาชนะประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อวัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,300 ล้านบาท ถือเป็นโรงงานขนาดใหญ่ในสายธุรกิจชีวภาพของกลุ่ม KTIS อีกโรงงานหนึ่ง นอกเหนือจากโรงงานผลิตเอทานอล โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวล และโรงงานผลิตเยื่อกระดาษชานอ้อย โดยคาดว่าโรงงานใหม่นี้จะเริ่มผลิตและจำหน่ายสินค้าสู่ตลาดได้ภายในปี 2563 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ของสายธุรกิจชีวภาพเติบโตขึ้นมาในระดับที่ใกล้เคียงกับรายได้จากสายธุรกิจน้ำตาล อันจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำตาลได้เป็นอย่างดี จากปัจจุบันที่กลุ่ม KTIS มีรายได้จากสายธุรกิจน้ำตาลประมาณ 64% และสายธุรกิจชีวภาพ 36%

"เรามั่นใจมากว่า โรงงานผลิตภาชนะชานอ้อยนี้จะมีศักยภาพในการทำรายได้และกำไรที่ดี เนื่องจาก ในปัจจุบันกระแสรักสิ่งแวดล้อมมาแรงมาก ความต้องการใช้ภาชนะที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูได้จากการผลิตภาชนะชานอ้อยที่ปัจจุบันกลุ่ม KTIS มีสายการผลิตอยู่ที่โรงงานของบริษัท เอ็นไวรอนเม็นท์พัลพ์ แอนด์ เปเปอร์ กำลังการผลิตประมาณ 2 ตันต่อวัน หรือประมาณ 100,000 ชิ้นต่อวันนั้น แม้จะใช้เต็มกำลังการผลิต ก็ยังไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้" นายณัฎฐปัญญ์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๓ เซ็นทารา เปิดตัว โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โรงแรมไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ใจกลางเมือง พร้อมอิสระแห่งการเดินทาง
๑๐:๐๙ THE GAIN ยกขบวนวิทยากรระดับประเทศ มุ่งสู่งานสัมมนา การเทรดและลงทุนปี 2024
๑๐:๒๗ W เผย IFA หนุนเพิ่มทุน 2.5 พันล้านหุ้นขาย PP รับแผนเข้าถือหุ้นฟรุตต้าฯ 51% พร้อมปลดล็อก CBC
๑๐:๓๐ ผถห.TFG โหวตหนุนแจก TFG-W4 ฟรี! อัตรา 10 : 1 ราคาใช้สิทธิ 3.80 บ.พร้อมจ่ายปันผลเงินสด 0.01 บ./หุ้น ปักธงปี 67 รายได้โต 10%
๑๐:๑๙ ASIA เตรียมขายหุ้นกู้มีหลักประกัน มูลค่า 300 ลบ. อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 7 - 7.20% มูลค่าหลักประกันเฉียด 1,600 ลบ. คาดเปิดจองซื้อวันที่ 27 - 29 พ.ค.
๑๐:๓๘ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศรวมอัตลักษณ์องค์กรในระดับโลก ด้วยการรีแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เป็น ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์
๑๐:๕๔ ยูนิโคล่ร่วมกับมารีเมกโกะ เปิดตัว UNIQLO x Marimekko คอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน 2024 เติมเต็มความสดใสให้ซัมเมอร์ ในธีม Joyful Summer
๑๐:๔๒ TERA ฟอร์มเจ๋ง! เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 122.86% ลุยให้บริการ T.Cloud รับอนาคตธุรกิจคึกคัก ปักหมุดผลงาน 3 ปีเติบโตเฉลี่ยเกิน
๑๐:๐๙ โบรกฯ แสกน GFC ส่งซิก Q1/67 พุ่ง
๑๐:๐๐ ผถห. WINMED ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.0295 บ./หุ้น-รับเงิน 21 พ.ค.นี้ รุกตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก เพิ่มรายได้ประจำผถห. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 20%