ศึกษาความเหมาะสมรูปแบบโครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยารอบด้าน

จันทร์ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๖:๕๔
นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีในสื่อสังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ริ

มฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีการก่อสร้างทางเลียบริมแม่น้ำ อาจมีผลกระทบกับวิถีชีวิตริมแม่น้ำแบบดั้งเดิมว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กทม. ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถ เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากแม่น้ำได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงแก้ไขปัญหาการรุกล้ำพื้นที่แม่น้ำ ซึ่งที่ผ่านมา สนย. ได้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ

พบว่าบริเวณที่เหมาะสมจะดำเนินงานโครงการฯ ในระยะแรก อยู่ในช่วงสะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีความเหมาะสมด้านกายภาพ นอกจากนั้น ยังได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เหมาะสมกับศักยภาพในการพัฒนาของแต่ละพื้นที่ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน เพื่อนำมาพิจารณาปรับแก้แผนแม่บทและรูปแบบโครงการฯ ให้มีความเหมาะสม ไม่น้อยกว่า 400 ครั้ง ขณะเดียวกันได้ร่วมกับกรมเจ้าท่า ปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนในชุมชนที่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และยินยอมย้ายออกไป

โดยประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยเหลือจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ โดยบางส่วนได้ย้ายไปที่อยู่อาศัยใหม่ที่อาคารพักอาศัยกรมการขนส่งทหารบก (แฟลต ขส.ทบ.) ซึ่งเมื่อประชาชนได้ย้ายไปที่อยู่อาศัยใหม่ จะส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อกังวลของประชาชนที่มีต่อรูปแบบโครงการฯ ทั้งผลกระทบด้านชลศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ การเดินเรือผลกระทบด้านวัฒนธรรม ได้มีการพิจารณาความเหมาะสมอย่างรอบด้าน เป็นไปตามหลักวิชาการ ดังนั้น การพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต การประกอบธุรกิจ การประกอบอาชีพ การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม อีกทั้ง รูปแบบทางเดินและทางจักรยาน จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.25 เมตร ต่ำกว่าระดับเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ประมาณ 1 เมตร จึงไม่บดบังภูมิทัศน์

ทัศนียภาพสิ่งก่อสร้างริมน้ำ และวัฒนธรรมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเดียวกันยังคำนึงถึงระบบการขนส่งทางน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเดิน เรือทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ไฟฟ้าแสงสว่าง การตรวจตราสอดส่อง ตลอดจนจัดให้มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อดูแลความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม. ได้ดำเนินโครงการฯ ด้วยความรอบคอบ มีการศึกษาผลกระทบด้านต่างๆ ตลอดจนพิจารณาวางแนวทาง แก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนอย่างรอบด้าน เพื่อให้โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็น Landmark ใหม่แห่งเมืองหลวงที่มีความสมบูรณ์แบบ ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจ อนุรักษ์วัฒนธรรม รวมถึงสืบสานประวัติศาสตร์ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ และทำให้เจ้าพระยาเป็นของคนไทยทุกคน หรือ Chao Phraya for All

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4