นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสาธารณภัยเกิดบ่อยครั้ง มีแนวโน้มรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในการจัดการและตอบโต้ภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับยกระดับมาตรฐานด้านการค้นหาและกู้ภัยของประเทศ เพื่อรองรับการจัดการสาธารณภัยในทุกระดับ ซึ่งแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 ได้กำหนดให้จัดตั้งชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (National Urban Search and Rescue : USAR) ที่มีศักยภาพตามมาตรฐานคณะที่ปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัยระหว่างประเทศ (International Search and Rescue Advisory Group : INSARAG) ซึ่งสามารถปฏิบัติงานร่วมกับชุดปฏิบัติการฯ ของประเทศอื่น ทั้งกรณีเกิดสาธารณภัยรุนแรงในประเทศและระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุระดับภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก พ.ศ.2562 (INSARAG Asia – Pacific Regional Earthquake Response Exercise : ERE 2019) กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ร่วมกับสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (United Nations office for the Coordination of Humanitarian Affair : UNOCHA-ROAP) กระทรวงการต่างประเทศ และจังหวัดเชียงใหม่ จัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุระดับภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก พ.ศ.2562 ตามมาตรฐานการค้นหาและกู้ภัยระหว่างประเทศ (INSARAG Asia – Pacific Regional Earthquake Response Exercise : ERE 2019) ระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทดสอบการตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉินระดับชาติของประเทศไทยในด้านประสานการรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศเมื่อเกิดสาธารณภัยร้ายแรงยิ่ง หรือระดับ 4 ซึ่งเกินกว่าศักยภาพของประเทศจะรับมือ รวมทั้งการปฏิบัติงานด้านการประสานงานร่วมกับหน่วยงานและองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียน และระดับนานาชาติ ดำเนินการในรูปแบบการฝึกซ้อมตามบทบาทหน้าที่ (Functional Exercise) ตามมาตรฐาน INSARAG โดยจำลองเหตุการณ์การเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แมกนิจูด โดยมีระดับความลึก 10 กิโลเมตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง อาคารและ สิ่งสาธารณประโยชน์พังถล่ม ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก เป็นสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง (ระดับ 4) ตามแผน ปภ.ชาติ พ.ศ.2558 จำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือ การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และอุปกรณ์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ มีทีมค้นหาและกู้ภัยในเมือง (USAR Team) ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะภัยพิบัติ และหน่วยงานด้านการจัดการภัยพิบัติ ในประเทศไทยและประเทศสมาชิกภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก เข้าร่วมการฝึกฯ รวมกว่า 400 คน
นายมณฑล กล่าวต่อไปว่า การฝึกซ้อมแผน ERE 2019 ในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและศักยภาพในการประสานงานกับชุดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศภายใต้หลักองค์การสหประชาชาติ และมาตรฐาน INSARAG และการประสานงานระหว่างหน่วยงานภายในประเทศเพื่อตอบโต้สถานการณ์สาธารณภัยในระดับร้ายแรง ที่สำคัญ บทบาทของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุระดับภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก พ.ศ.2562 ครั้งนี้ ยังเป็นการแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR Team) ของประเทศไทย โดยมุ่งหวังว่าการฝึกซ้อมแผนฯ จะเป็นแนวทางสำคัญในการเสริมสร้างทีม USAR ของประเทศไทยให้มีศักยภาพและพร้อมเข้ารับการประเมินศักยภาพเป็นทีมขนาดกลาง (Medium USAR Team) ตามมาตรฐาน INSARAG ในปี พ.ศ.2564 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีหน่วยปฏิบัติการด้านการค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ (TEAM THAILAND) ที่มีขีดความสามารถในการรองรับสาธารณภัยขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงได้รับการรับรองการปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล