นอสเกิดที่กรุงเทพฯ แต่ไปโตและเรียนหนังสือที่เชียงใหม่จนจบชั้น ปวส. ด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม จากวิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการลานนา นอสเล่าว่า “อดีตที่บ้านหนูเคยมีฐานะที่อยู่อย่างสบายเพราะคุณแม่เปิดร้านขายข้าวมันไก่ในฟู้ดคอร์ตห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน จนกระทั่งวันหนึ่งโรคไข้หวัดนกระบาด ทำให้คนไม่กินไก่ ร้านเราก็ได้รับผลกระทบมาก ยอดขายตกและห้างมาเกิดไฟไหม้อีก เงินที่หามาทั้งหมดจึงต้องเอาออกมาใช้ ตอนนั้นอยู่กับคุณแม่ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องจนห้องโดนล็อค ลำบากมากๆ เคยต้องออกไปนอนข้างถนนมาแล้ว เราปฎิญาณกับตัวเองว่าจะไม่กลับไปลำบากอีกครั้งแน่ๆ” นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้นอสต่อสู้และอดทนฝ่าฟันอุปสรรคทำงานทุกอย่างให้สามารถมีรายได้เลี้ยงตัวเองและส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ
นอสเล่าต่อว่า “ชีวิตตัวเองค่อนข้างสู้นะ ต้องตื่น 8 โมงเช้าไปเรียน หลังเลิกเรียนก็ไปทำงานกับบริษัททัวร์จากนั้นก็ไปทำงานบัญชีให้กับสถานบันเทิงกลางคืน เลิกงานก็ตี 3 พอเรียนจบมีโอกาสได้มาทำงานกับโรงแรมแห่งนึงเป็นโฮสเทลแถวเยาวราช เลยกลับมาอยู่กรุงเทพฯ อีกครั้ง ด้วยความที่เราไม่อยากกลับไปลำบากอีก งานอะไรมีมาเราก็ทำ
“ตอนนี้เราก็ทำงานส่งอาหารกับ GET พอมีคนรู้จักชวนไปทำงานบริษัทอีเว้นต์ออแกไนเซอร์ในตำแหน่งเลขาที่คอยช่วยประสานงานในด้านต่างๆ ช่วยทำได้ทุกอย่างที่เค้าให้ทำ แต่งานอีเว้นท์ก็ไม่แน่นอนรายได้ไม่มั่นคงภาระค่าใช้จ่ายในกรุงเทพฯ ก็สูง ก็เลยมองหาอาชีพเสริม และได้ลองทำหลายอย่างทั้งขายของออนไลน์พวกอาหารเสริมต่างๆ จนได้ลองมาสมัครเป็นคนขับแอพส่งอาหารนี่แหละ สำหรับเราถือว่ารายได้เราดีนะ เคยทำรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 4 - 5 หมื่นบาทก็เคยมาแล้ว ขึ้นกับความขยันของแต่ละคนด้วย”
นอกจากการทำงานแล้ว นอสเองที่เคยลำบากมาก่อน ยังชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ เธอเล่าว่า “พอเราได้มาขับก็เริ่มรู้จักพี่ๆ ในแอพที่เค้าทำเกี่ยวกับจิตอาสาอยู่แล้ว พี่เค้าก็ชวนเราไปช่วยตอบคำถามหรือช่วยเหลือคนขับด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเราในการทำจิตอาสามีหน้าทีเป็นแอดมินในกลุ่มที่ช่วยเหลือซัพพอร์ตคนขับ อย่างใครรถล้มบาดเจ็บก็จะรีบช่วยประสานไปยังเจ้าหน้าที่ GET ว่ามีคนขับรถล้มมีประกันดูแลแล้วหรือยัง หรือมีใครอยู่แถวนั้นบ้างให้ไปช่วยกันดูแล ในกลุ่มทุกคนก็จะช่วยเหลือกันอย่างดี หรือเราวิ่งไปส่งอาหารที่เปลี่ยวดึกๆ เราก็จะส่งข้อความไปบอกให้ทุกคนรู้จะได้ช่วยกันหากเกิดอะไรขึ้น หรือคนขับคนอื่นรถเสียมีปัญหาในกลุ่มก็จะช่วยกัน”
พอทำมาซักพักคนขับในกลุ่มเริ่มเยอะ นอสขึ้นจึงชวนพี่ที่รู้จักกันมาตั้งกรุ๊ปในเฟซบุ๊ก ชื่อ “ผมรู้คุณขับ App” เป็นกลุ่มที่ก่อตั้งโดยคนขับเพื่อบอกต่อข่าวสารและช่วยเหลือกันผ่านสื่อกลางทางเฟซบุ๊ก รวมถึงสามารถระบายออกในสิ่งที่อยากบอกหรือพูดถึงสิ่งต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันได้ ในกรุ๊ปนี้เป็นการรวมคนขับทุกแอพส่งอาหารของทุกแบรนด์ ซึ่งนอสบอกว่าแอดมินทุกคนมาทำงานด้วยใจกันจริงๆ ไม่ได้มีผลประโยชน์กับบริษัทไหนเลย ทำเพราะอยากช่วยเหลือกันและภูมิใจทุกครั้งที่ช่วยให้คนขับทุกคนที่เดือดร้อนสามารถมีรายได้เลี้ยงปากท้องในยุคเศรษฐกิจไม่ดีได้ด้วยอาชีพส่งอาหาร น็อตบอกว่า “เห็นคนบ่นว่าหางานยาก หนูว่าจริงๆ งานมันมี งานมันเยอะนะ ถ้าแค่เราไม่เลือกงาน อย่างหนูคุยกับพี่ๆ คนขับด้วยกัน ทุกคนก็บอกว่าอย่างน้อยๆ เราก็พอมีกิน เลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวได้”
จากฝันในวัยเด็กที่คิดว่าอยากเข้าวงการบันเทิงหรือทำงานเบื้องหลัง ตอนนี้นอสไม่คิดอยากสานฝันแล้ว เพราะรู้สึกปากท้องสำคัญกว่า และสิ่งที่ทำตรงนี้ที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมอาชีพก็มีความสุขดี เธอมองว่าอาชีพส่งอาหารเหมือนเราได้ไปเจอร้านใหม่ๆ ก็ทำให้เราได้เปิดโลกไปในตัว รู้สึกสนุกกับงานอิสระนี้
นอสทิ้งท้ายว่า “ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง หนูว่าขอให้ขยันอดทนก็สามารถมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ ถ้าใครที่ใครกำลังอยากหางานให้ลองสมัครเข้ามาดู และถ้าใครขับแอพมีปัญหาแล้วอยากปรึกษา หนูก็ยินดีให้คำปรึกษาทุกคนสามารถกดเข้าร่วมกลุ่มได้เลย”
เกี่ยวกับ “เก็ท”
“เก็ท” (GET) เป็นออนดีมานด์แอพพลิเคชั่นสำหรับหลากหลายบริการที่ก่อตั้งขึ้นโดยทีมงานคนไทย พร้อมด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลก รวมถึงเงินลงทุนจาก “โกเจ็ก” (GO-JEK) โดย “เก็ท” นำเสนอบริการต่างๆ มากมายเพื่อคนไทย รวมถึงบริการเรียกรถ ส่งพัสดุ ส่งอาหาร และอื่นๆ “เก็ท” ก่อตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน รวมถึงช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น