“ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายนของทุกปีมักเกิดพายุฤดูร้อนฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกเพื่อเป็นการยับยั้งบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บทางกระทรวงเกษตรฯจึงสั่งการไปยังกรมฝนหลวงและการบินเกษตรให้ใช้เครื่องบินสมรรถนะสูงที่เข้าถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและใช้นวัตกรรมใหม่คือพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์เพื่อเพิ่มปริมาณแกนผลึกน้ำแข็งในเมฆเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสทำให้ลดการเกิดผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่กลายเป็นผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กจำนวนมากและละลายเป็นเม็ดฝนตกลงสู่พื้นเพื่อลดความหนาแน่นของหมอกควันลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นและปริมาณน้ำฝนให้กับพื้นที่ป่าไม้” ร้อยเอกธรรมนัสกล่าว
นายสุรสีห์กิตติมณฑลอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้กล่าวเพิ่มเติมว่ากรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีการเปิดปฏิบัติการฝนหลวงประจำปีตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งและภัยพิบัติมีความรุนแรงซึ่งเป็นการปฏิบัติการเร็วกว่าทุกๆปีสำหรับการปฏิบัติการยับยั้งพายุลูกเห็บได้มีการตั้งหน่วยปฏิบัติการ3 หน่วยได้แก่หน่วยฯจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดพิษณุโลกและหน่วยฯจังหวัดอุดรธานีตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2563 และได้มีการปฏิบัติการบรรเทาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือโดยมีการตั้งหน่วยปฏิบัติการ 2 หน่วยได้แก่หน่วยฯจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยฯจังหวัดพิษณุโลกตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ -30 เมษายน 2563
ทั้งนี้ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือและศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องพร้อมทั้งให้พี่น้องเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปนั้นสามารถแจ้งข้อมูลและส่งรูปภาพการเกิดลูกเห็บในพื้นที่เพื่อสนับสนุนข้อมูลแก่การปฏิบัติการยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงจากลูกเห็บทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตรศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือและศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือนอกจากนี้ยังสามารถติดตามข้อมูลผลตรวจเรดาร์ทั่วประเทศทางเว็บไซต์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรและสามารถติดตามการแจ้งเตือนสภาพอากาศโอกาสเกิดลูกเห็บได้ทางช่องทางต่างๆของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร