สำหรับโครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งเดินเครื่องเพื่อช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องเกษตรกรและประชาชน ในแหล่งน้ำชุมชนที่ประสบภัย 1,436 แห่ง 129 อำเภอ ในพื้นที่ 19 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ตราด นครพนม บุรีรัมย์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สกลนคร สระแก้ว สุโขทัย อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี โดยการปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงในแหล่งน้ำ ขนาดตั้งแต่ 5 - 7 เซนติเมตรขึ้นไป จำนวน 200,000 ตัวต่อแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถลดระยะเวลาในการเจริญเติบโตและเพิ่มอัตราการรอดได้ดี เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้ชุมชน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในด้านผลผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจมูลค่าสูง และเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนในการเข้าถึงทรัพยากรของชุมชนได้อีกด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้เตรียมจัดกิจกรรม Kick Off เปิดตัวโครงการฯ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ด้วยการจัดกิจกรรมการปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามล็อตแรก จำนวน 1 ล้านตัว ในวันที่ 20 มีนาคม 2563 พร้อมกันในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ 1) หนองผือ ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร 2) หนองกุง ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ 3) หนองหัวลิง บ้านหนองกกเปลือย ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร 4) บึงอ้ายจ๋อ ต.ดงกลาง อ.เมือง จ.พิจิตร และ 5) อ่างเก็บน้ำห้วยวังแดง ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมประมงเร่งสื่อสารสร้างกระบวนการรับรู้และสร้างความเข้าใจ เพื่อให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการแหล่งน้ำ และเพื่อให้ผลผลิตกุ้งก้ามกรามได้มีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน จึงมีการส่งเสริมองค์ความรู้แก่ชุมชน โดยการจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทางด้านวิชาการ เช่น ข้อควรปฏิบัติในการดูแลรักษาทรัพยากร การเฝ้าระวังทรัพยากรให้ใช้ประโยชน์ได้เมื่อถึงขนาดที่เหมาะสม มีการจัดตั้งกรรมการเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชน ทั้ง 1,436 แห่ง จัดตั้งกลไกความร่วมมือ จัดทำแผนปฏิบัติงานและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพการทำงานในโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในอนาคตยังได้เตรียมการที่จะพัฒนาและทดลองใช้กุ้งก้ามกรามที่ปล่อยไปในครั้งนี้ เป็นพ่อแม่พันธุ์สำหรับเพาะด้วยชุดถังเพาะพันธุ์เคลื่อนที่ (Mobile Hatchery) เพื่อใช้ปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ใกล้เคียงต่อไปด้วย