นายธวัช กล่าวต่อไปว่า เยาวชนเหล่านี้ต้องแข่งขันภายใต้กติกาที่เข้มงวด สาขาเมคคาทรอนิกส์ ผู้เข้าแข่งขันต้องประกอบเครื่องจักรตามแบบที่กำหนด เขียนโปรแกรมควบคุมเครื่องจักรและอุปกรณ์ HMI ตรวจเช็คและบำรุงรักษาระบบเครื่องจักร ใช้เวลาในการแข่งขัน 10 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนสาขาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ ผู้เข้าแข่งขันต้องประกอบหุ่นยนต์ เขียนโปรแกรมการทำงาน เพื่อปฏิบัติภารกิจด้านโลจิสติกส์ตามที่กำหนด ใช้เวลาในการแข่งขัน 13 ชั่วโมง 11 นาที ผลการแข่งขันจะประกาศพร้อมกันในวันที่ 20 มีนาคม 2563 เยาวชนที่ชนะเลิศการแข่งขันฝีมือแรงงานครั้งนี้จะได้รับโอกาสเป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 ณ ประเทศสิงคโปร์และการแข่งขันฝีมือแรงงานระดับนานาชาติต่อไป
“ทั้งสองสาขามีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ โดยถูกกำหนดให้เป็น 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกระบุว่า ในช่วงปี 2560-2566 มีความต้องการแรงงานสาขานี้ในพื้นที่ EEC ถึง 96,000 ตำแหน่ง การแข่งขันจึงเป็นการพิสูจน์ศักยภาพให้เห็นถึงขีดความสามารถของเยาวชน ที่จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนในอนาคต พร้อมกระตุ้นให้เกิดการผลิตแรงงานฝีมือป้อนสู่ตลาดแรงงานอีกด้วย” อธิบดีกพร. กล่าว