นายขจรจักษณ์ นวลพรหมสกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เบื้องต้นการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ร่วมหารือกับสถานกงสุลมาเลเซีย และสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางของมาเลเซีย เพื่อบรรเทาผลกระทบในอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือ ซึ่งได้ประเมิน สต๊อกวัตถุดิบที่ใช้จะผลิตได้แค่ 3 วันเท่านั้น
โดยล่าสุด ได้รับการผ่อนผันให้นำเข้าน้ำยางข้นจากประเทศไทย เพื่อผลิตถุงมือได้แล้ว และไม่กระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดย กยท.จะเร่งประสานงาน และร่วมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ 5 สมาคมเกี่ยวกับยางพาราและโลจิสติกซ์ ในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมสถลสถานพิทักษ์ อาคาร 1 ชั้น 6 การยางแห่งประเทศไทย ได้เร่งประสานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพารา
เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดยางพาราของไทยทั้งระบบให้มีเสถียรภาพ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพารา มีความเข้มแข็ง เติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งหาแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหา และลดผลกระทบจากโรคระบาดครั้งนี้ ให้ได้มากที่สุด