ธรรม 4 ประการ ที่จะทำให้ผู้ครองเรือนมีความสุข ประกอบด้วย “อัตถิสุข” หมายถึง ความสุขจากการมีทรัพย์ โดยเฉพาะความภาคภูมิใจในทรัพย์ ที่หามาได้ด้วยแรงกาย สติปัญญา ความสามารถของตนเอง กล่าวคือ คนเราต้องประกอบสัมมาอาชีพ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์เลี้ยงชีพ เป็นที่พึ่งแก่ตนได้
“หนึ่งส่วนเก็บไว้ หนึ่งส่วนเอามาดูแลสุขภาพชีวิต หนึ่งส่วนพาไปลงทุน หนึ่งส่วนบำรุงบ้านเมือง และตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ”
ข้อนี้ กล่าวถึง “โภคสุข” หมายถึง สุขอันเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง หรือสร้างประโยชน์สุขต่อบุคคลอื่นในสังคม
ข้อต่อมาคือ “อนณสุข” หมายถึง สุขจากการไม่เป็นหนี้ หนี้ในที่นี้คือ หนี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ หนี้จากสิ่งไม่จำเป็น แต่การมีหนี้จากการมีบ้านมีเรือนไม่จัดว่าเข้าข่ายดังกล่าว เพราะเป็นการบริหารการเงินเพื่อปัจจัย 4 มีพุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า “อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก” แปลว่า “การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก” เช่นเดียวกับ “มหาตมะ คานธี” ที่บอกว่า “การสุรุ่ยสุร่าย คือการฝึกตนเองให้เป็นมหาโจร ปล้นตัวเอง” ดังนั้น หากไม่อยากทุกข์ ก็อย่าเป็นหนี้ การไม่เป็นหนี้ ก็แค่ไม่สุรุ่ยสุร่าย
ท้ายสุดคือ “อนวัชชสุข” หมายถึง สุขเกิดจากความประพฤติไม่มีโทษ คือความภูมิใจเอิบอิ่มใจว่าตนมีความประพฤติสุจริต ไม่บกพร่องเสียหาย ใครๆ ติเตียนไม่ได้ ทั้งทางกายวาจาใจ
“การทำให้จิตไม่เศร้าหมอง ดูแลสิ่งที่อยู่กับเรา 3 ประการ หนึ่งดูแลกาย ไม่ให้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม สองดูแลวาจา ไม่พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ส่อเสียด และสามดูแลจิต ไม่ทำให้โลภหลงอยากได้ของผู้อื่น ถ้าทำเช่นนี้ได้ก็จะพบความสุข” เจ้าอาวาสวัดชลประทานฯ ทิ้งท้าย