บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์และบริการอาหารจากห้องครัวของโรงแรมถึงชุมชน คือโอกาสที่ชัดเจนของการใช้ความสัมพันธ์ในท้องถิ่นและธุรกิจใหม่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการโรงแรมได้ต่อไปในระยะยาว ไม่เฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นี้เท่านั้น แต่สามารถต่อยอดออกไปเมื่อสถานการณ์กลับเป็นปกติ
Callum Hale-Thomson – รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Unwrapped
แม้กระทั่งก่อนการระบาดของไวรัส C-19 แขกผู้เข้าพักมีความต้องการให้โรงแรมเป็น ”ผู้มอบประสบการณ์ปลายทางที่สมบูรณ์แบบ” ซึ่งน่าจะเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจะฟื้นตัวก่อน จากการที่ประเทศต่างๆจะค่อยๆเปิดพรมแดนอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคจะยังคงเป็นแบบชั่วครั้งชั่วคราวไม่แน่นอน นักท่องเที่ยวจะยังคงหลีกเลี่ยงการเดินทางไกล นักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นครอบครัวจะมองหาที่พักที่ปลอดภัย ดังนั้นผู้ประกอบการโรงแรมควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายการตลาดไปที่
“Staycationers” นักท่องเที่ยวในประเทศที่แสวงหาการผ่อนคลาย ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ ย้ายที่นอน พักร้อน นอนใกล้บ้าน โดยไม่ต้องไปไหนไกล“Escapists” นักท่องเที่ยวที่ต้องการความเงียบสงบและปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวชนบท ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อาจจะไม่คุ้นเคยกับจุดหมายปลายทางและต้องการความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการที่พัก และกลุ่มที่สามคือ“Opportunists” ที่มองหาประสบการณ์พักผ่อนในโรงแรม ในช่วงที่มีการลดราคาหรือโปรโมชั่นพิเศษ
Hale-Thomson กล่าวว่า โรงแรมสามารถสร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทในท้องถิ่นที่เป็นพันธมิตรในการจัดหาสินค้าและบริการ เช่น บริการแท็กซี่ ธุรกิจบริการเคล็ดลับอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใคร ธุรกิจนำเที่ยวในท้องถิ่น ธุรกิจจัดเก็บกระเป๋าเดินทาง และจากโรงยิมหรือศูนย์ฟิตเนส เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างกระแสเงินสดให้กับธุรกิจโรงแรมอยู่รอดได้อีกทางหนึ่ง
James Lemon ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ The Growth Works
James Lemon กล่าวว่า ธุรกิจต้อนรับและบริการเป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องมีความสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการโรงแรมมักจะมีความคิดใหม่ๆ แต่นำไปปฏิบัติได้ยาก อีกทั้งเป็นวิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปรากฏการณ์ที่แขกผู้เข้าพักและรายได้ของโรงแรมหายไปเกือบ 100% หลายๆโรงแรมไม่สามารถประคับประคองทีมงานไว้ได้ และแม้ว่าจะมีสัญญาณของการฟื้นตัวแต่พฤติกรรมของลูกค้าก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ทำให้ธุรกิจโรงแรมต้องบริหารจัดการความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน เสมือนการเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือเริ่มจาก 0 นั่นหมายความว่า โรงแรมจะไม่สามารถคาดการณ์การทำตลาดได้ แต่ในวิกฤตินี้ก็ยังมีโอกาสเช่นกัน นอกจากนี้ วอร์รูมทีม (war room) ของโรงแรมควรมีความคล่องตัวในการวางแผนงานให้เหมาะในแต่ละสถานการณ์ และติดตามพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าอย่างระมัดระวัง โดยเตรียมความพร้อมที่จะให้บริการกลุ่มลูกค้าในประเทศก่อน ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ของคุณเหมาะกับเบราว์เซอร์ท้องถิ่นหรือไม่ ลูกค้าสามารถจองห้องพักและบริการจากโรงแรมของคุณเพียงแค่คลิกได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันการสร้างพันธมิตรใหม่ทางธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ มักจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เร็วกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่าการทำด้วยตัวเอง นอกจากนี้ผู้บริหารโรงแรมควรใช้แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแพ็คเกจห้องพักและบริการของโรงแรม โดยไม่จำเป็นต้องลดอัตราค่าห้องพักลง แต่ควรสร้างแพ็คเกจที่คุ้มค่ากับการจ่ายเงินแทน โดยอาจจะเป็นการเพิ่มมื้ออาหาร บริการสปา หรือช่วงเวลาของการดื่มชายามบ่าย ที่สำคัญต้องหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าแพ็คเกจใดได้รับการตอบรับดีและไม่ดี และปรับกลยุทธ์การตลาดอย่างทันท่วงที
Eleanor Petronzio - หัวหน้าฝ่าย Client Development ของ SK Chase
ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา Petronzio สังเกตว่ามีการจองซื้อที่พัก โรงแรม บริการสปาและบัตรกำนัลรับประทานอาหารของผู้คนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นนอนว่าผู้คนกำลังวางแผนที่จะให้รางวัลตัวเองและครอบครัว หลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่ง Petronzio ช่วยให้โรงแรมสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที จากการสร้างบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังมีความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อส่งมอบความรักและวันดีๆให้กับสมาชิกในครอบครัว ด้วยบัตรกำนัลห้องพักโรงแรม สปาหรือมื้อน้ำชายามบ่าย ซึ่งบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถใช้ได้ในระยะเวลาสองปีหรือมากกว่าสองปี และมีจำนวนบัตรกำนัลมากถึง 23% ที่ไม่เคยถูกใช้
Angus Wilson ผู้จัดการ Brand Activation จาก Uber Eats
Wilson บอกกับผู้บริหารโรงแรมในการสัมมนาออนไลน์ว่า อุตสาหกรรมธุรกิจสั่งอาหารออนไลน์ในสหราชอาณาจักร มีมูลค่าถึง 8.4 พันล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 18% ในปี 2562 และคาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อไปในหลายๆประเทศ ทั้งในช่วงของการแพร่ระบาดและหลังการแพร่ระบาดของ coronavirus ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับโรงแรมในการใช้ครัวของโรงแรมเพื่อให้บริการจำหน่ายอาหารแบบเดลิเวอรี่ ผ่านแพล็ตฟอร์มรับจัดส่งอาหาร โดยบริษัทต่างๆเช่น Uber Eats ที่สามารถช่วยโรงแรมทำการตลาดและส่งอาหารไปยังชุมชนท้องถิ่น
Caroline Dal'lin ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Bidroom ผู้จัดสัมมนาออนไลน์กล่าวว่า “ด้วยความคิดสร้างสรรค์และเปิดกว้างของผู้ประกอบการโรงแรม ทำให้เกิดความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ธุรกิจโรงแรมสามารถมีรายได้และผลกำไรที่อาจจะคาดไม่ถึง”
การสัมมนาทางออนไลน์ I Meet Hotel ครั้งต่อไป ในวันที่ 22 เมษายน จะกล่าวถึงมาตรการต่างๆจากภาครัฐบาลที่น่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของโรงแรมและภาคการท่องเที่ยว หลังการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19
ผู้สนใจร่วมสัมมนาออนไลน์สามารถลงทะเบียนหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ คลิกที่นี่ หรืออีเมล [email protected]
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.imeethotel.com.
เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมในช่วงวิกฤติ Bidroom ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกให้แก่โรงแรมทั้งหมดในปี 2563
เกี่ยวกับ I MEET HOTEL
I Meet Hotel เป็นงานแสดงอุตสาหกรรมโรงแรมระดับโลกแห่งแรก ที่เชื่อมผู้ประกอบการโรงแรมสู่อนาคตของธุรกิจการบริการ ผ่านงานประชุมที่เต็มไปด้วยข้อมูลสำคัญในการสร้างความภักดีของลูกค้า เป็นงานประชุมระดับโลกของภาคธุรกิจโรงแรม ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่าย ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาธุรกิจใหม่ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและสร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ งานประชุม I Meet Hotel จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ที่ คราคูฟ อิสตันบูล และอัมสเตอร์ดัม สำหรับงานประชุมในปี 2020 จะจัดให้มีขึ้นที่กรุงปารีส (15 ก.ย.) กรุงมิลาน (29 ต.ค.) และที่ SHMS สวิตเซอร์แลนด์ (28 พ.ย.)