Wu Guichun ชายวัย 54 ปีจากมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ทำงานในตงก่วนมาเป็นเวลา 17 ปี เขาทำงานอย่างหนักเพื่อจุนเจือครอบครัวและส่งเสียให้ลูกเล่าเรียนจนจบ จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ เขาถูกเลิกจ้างเพราะโรคระบาด ซึ่งก่อนที่เขาจะเดินทางกลับภูมิลำเนานั้น เขาได้ไปหอสมุดตงก่วนและทิ้งข้อความไว้
“ผมอยู่ตงก่วนมา 17 ปี และอ่านหนังสือในห้องสมุดนี้มานาน 12 ปี หนังสือทำให้คนฉลาดขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อใครๆ เมื่อผมคิดถึงชีวิตในตงก่วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา สถานที่ที่ดีสุดก็คือห้องสมุด ถึงแม้ผมจำเป็นต้องจากไป แต่ผมก็จะไม่ลืมหอสมุดตงก่วนไปตลอดชีวิต” Wu Guichun เขียนไว้บนกระดานข้อความ
การแสดงความรักต่อหนังสือและเมืองตงก่วนของแรงงานต่างถิ่น Wu Guichun ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากชาวเน็ตจีน รวมถึงการตอบสนองอย่างทันท่วงทีจากรัฐบาลท้องถิ่น โดยความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เขามีโอกาสได้งานใหม่อีกครั้ง
ข้อมูลทางสถิติแสดงให้เห็นว่า ภายในสิ้นปี 2562 ประชากรอพยพถาวรในตงก่วนมีจำนวนเกือบ 6 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของประชากรทั้งหมดของเมือง Xiao Yafei นายกเทศมนตรีเมืองตงก่วน กล่าวที่การประชุมสองวาระในปี 2563 ว่า ตงก่วนให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของตงก่วนตลอดทั้งปีนี้
Wu Guichun กล่าวว่า ตงก่วนมีสภาพแวดล้อมความเป็นเมืองที่ดี และมีความสะดวกสบายสำหรับแรงงานต่างถิ่น ทุกคนที่นี่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะเชิงวัฒนธรรมคุณภาพสูงและฟรีอย่างเท่าเทียม ซึ่งช่วยเติมเต็มความต้องการทางจิตใจและเพิ่มพูนความรู้ให้เขา
ผู้สังเกตการณ์ทางสังคมบางรายเชื่อว่า หนึ่งในมาตรการสำคัญที่จีนนำมาใช้เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจขาลงคือ การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา บริการสุขภาพ สิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ และบริการสาธารณะ เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม ด้วยการทำให้ภาคธุรกิจและชาวเมืองมีความสุขและได้รับประโยชน์ ซึ่งนับเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมในการกระตุ้นตลาดให้กลับมามีชีวิตชีวา และช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว
“รายงานสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในเมืองต่างๆ ของจีน ประจำปี 2562” พบว่า ตงก่วนติดอันดับที่ 5 ในบรรดาเมืองที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดดเด่น โดยตงก่วนสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจนานาชาติ ด้วยการให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมเมืองที่เปิดกว้างและมีความหลากหลายเพื่อดึงดูดปัจจัยการผลิตระดับโลก
ในขณะเดียวกัน ตงก่วนได้กลายเป็นที่สนใจจากการเผยแพร่ภาพยนตร์สารคดี “A Bite of Dongguan” ซึ่งนำเสนออาหารและเครื่องปรุงท้องถิ่นของตงก่วนกว่า 130 ชนิด ผ่านตัวละครและเรื่องราวต่างๆ ที่แสดงให้เห็นสภาพแวดล้อมของผู้คนที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่ ตลอดจนวัฒนธรรมพื้นเมืองและวัฒนธรรมอื่นเข้าด้วยกัน สารคดีชุดนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน และจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม มียอดรีวิวมากกว่า 27 ล้านครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นเชิงบวกมากมาย
ทีมโปรดักชั่นของสารคดีชุดนี้กล่าวว่า ตงก่วน เมืองชายฝั่งทางใต้ของจีน ดึงดูดผู้อพยพต่างถิ่นจากเมืองทางเหนือของจีนมาเป็นเวลากว่า 1,600 ปีในช่วงที่เมืองพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้อพยพเหล่านี้นำวัฒนธรรมการกินของภูมิลำเนามาผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น จนเกิดเป็นความหลากหลายด้านอาหาร
เช่นเดียวกับสารคดีชื่อ “The Era of Manufacturing” ที่แสดงให้เห็นว่า ประชาชนคือหัวใจของเมืองตงก่วน และเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างคุณภาพและความหลากหลายอย่างเท่าเทียม โดยตอนแรกซึ่งมีชื่อว่า “The Marvelous Workmen” ได้นำเสนอกำลังสำคัญในภาคอุตสาหกรรมของเมืองตงก่วนผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของคนงานในโรงงานท้องถิ่น
ชาวเน็ตบางคนกล่าวว่า อุตสาหกรรมการผลิตที่พัฒนาแล้วทำให้เมืองตงก่วนได้รับการประทับตราว่าเป็น “โรงงานโลก” ขณะที่ผู้มาเยือนจากทั่วโลกได้เข้ามายังตงก่วนพร้อมอาหารอร่อยหลากหลายเมนู เช่น ก๋วยเตี๋ยวส่านซีและเส้นหมี่กว่างซี อาหารย่างซินเจียงและหอยนางรมย่างกวางตุ้ง บาร์บีคิวเกาหลีและอาหารญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้วัฒนธรรมการกินของตงก่วนมีความหลากหลายมากขึ้น และเมื่อจีนควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้แล้ว อุตสาหกรรมอาหารและการจัดเลี้ยง ซึ่งเป็น “มาตรวัด” การบริโภคก็ค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ การเผยแพร่สารคดีในเวลานี้จึงมีความสำคัญในการขับเคลื่อนการบริโภคและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ อาหารยังช่วยสร้างความอบอุ่นใจ โดยสารคดีเรื่องนี้ทำให้ผู้คนเข้าใจความโอบอ้อมอารีของเมืองอุตสาหกรรมชื่อดังแห่งนี้มากขึ้น อาหารสะท้อนให้เห็นความรักของผู้คนที่มีต่อชีวิตและความหลากหลายของเมือง ดังเช่นที่ Wu Guichun กล่าวไว้ว่า “เรารู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่ออยู่ที่ตงก่วน” ความหลากหลายอย่างเท่าเทียมจะดึงดูดนักลงทุน นักธุรกิจ และแรงงานให้เข้ามาลงทุน ทำงาน และอยู่อาศัยในเมืองตงก่วนมากขึ้น
ที่มา: Dongguan Library