รองนายกฯ วิษณุ-คุณหญิงกัลยา เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ยิ่งใหญ่

จันทร์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๔๑
รองนายกฯ วิษณุ-คุณหญิงกัลยา เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ยิ่งใหญ่ ปั้นวิทยาลัยเกษตรฯ ทั่วประเทศ สร้าง “ชลกร” สร้างงาน สร้างรายได้ แก้จน อย่างยั่งยืน
รองนายกฯ วิษณุ-คุณหญิงกัลยา เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ยิ่งใหญ่

กระทรวงศึกษาธิการ (๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓)-รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม และดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ อย่างยิ่งใหญ่ ได้มูลนิธินโยบายสาธารณะไทยสนับสนุนงบประมาณตั้งต้น ๑๐๐ ล้านบาท ปั้นวิทยาลัยเกษตรฯ ทั่วประเทศ สร้าง “ชลกร” ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการจัดการน้ำในชุมชนรุ่นใหม่ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ยั่งยืน พร้อมจัดกิจกรรม Workshop ดึงเยาวชนสร้างจิตสำนึกในการรักน้ำผ่านสื่อสมัยใหม่

ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ถือเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปฏิบัติโดยให้ความสำคัญกับการเร่งแก้ไขปัญหาจากฐานราก คือมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในลักษณะการพึ่งตนเอง นั่นคือ ทำให้ชุมชน หมู่บ้าน มีพื้นฐานที่มั่นคงพอสมควรก่อน แล้วจึงสร้างความเจริญและยกระดับเศรษฐกิจให้สูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการน้ำมาโดยตลอด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืนโดยชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ในการขับเคลื่อนและร่วมกับอาชีวะเกษตร เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีน้ำใช้ แก้ปัญหาความยากจน โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ที่มีนายโชติ โสภณพนิช เป็นประธาน ได้บริจาคเงินให้โครงการเพื่อเป็นทุนแรกเริ่มในการตั้งกองทุน จำนวน ๑๐๐ ล้านบาท ในการนำไปบริหารโครงการโดยรวมและสร้างโมเดลต้นแบบการกักเก็บน้ำรองรับน้ำฝน บนพื้นที่อาชีวะเกษตรก่อนขยายผลไปยังชุมชนโดยรอบ เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำกิน ช่วยสร้างงานสร้างเงินสร้างคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้กับนักศึกษาอาชีวะเกษตรรวมทั้งคนในชุมชน

สำหรับหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จนั่นก็คือชุมชนต้องมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทยจะสนับสนุนด้านเงินทุน ส่วนรัฐทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์ความรู้ และกระทรวงศึกษาจะใช้กลไกของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง ๔๗ แห่ง และโรงเรียนการศึกษาพิเศษอีก ๑๗๖ แห่งทั่วประเทศเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญ และจะมีหลักสูตรสร้างชลกร คือผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ เพื่อช่วยสอนชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการจัดการน้ำในชุมชน ให้สามารถดำเนินการต่อเองได้ นอกจากนี้ ในโครงการฯ จะมีการจัดกิจกรรม Workshop โดยคัดเลือกนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรฯ นำเสนอแนวความคิดเรื่อง “น้ำของเรา” โดยมีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำไปจนถึงผลิตชิ้นงานโฆษณาออกมา เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรู้ถึงความสำคัญ และคุณค่าของน้ำ

“เมื่อมีน้ำ ก็มีชีวิต คือแนวคิดหลักของโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ สร้างการเรียนรู้ ในการ มี-ใช้-จัดสรร “น้ำ” ในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพตามศาสตร์พระราชา ที่จะสร้างความอุดมสมบูรณ์ของน้ำให้กับชุมชนนอกเขตชลประทาน เพื่อใช้ในการทำการเกษตร บริโภคและอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยสร้างการเรียนรู้ผ่าน “ชลกร” นักศึกษาอาชีวะเกษตร จากวิทยาลัยเกษตรฯ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับการฝึกทักษะให้เชี่ยวชาญด้านการบริการจัดการน้ำในชุมชน ส่งต่อความรู้ไปยังผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ให้สามารถดูแลบริหารจัดการน้ำชุมชนด้วยตนเอง สร้างประโยชน์จากแหล่งน้ำเพื่อชีวิตที่พอเพียง โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน” ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จะเป็นแหล่งพัฒนาบุคลกรทางการเกษตร ที่พร้อมจะพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำในอนาคต โดยจะเป็นฐานปฏิบัติการที่สำคัญในการเดินหน้าโครงการนี้ ซึ่งในระยะแรกจะเริ่มนำร่องที่ ๕ วิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร มหาสารคาม ร้อยเอ็ดและศรีสะเกษ ซึ่งทุกวิทยาลัยมีความพร้อมทั้งในส่วนของครูและนักศึกษาที่จะเป็นแกนนำในการเร่งดำเนินโครงการสร้างโมเดลต้นแบบบนพื้นที่วิทยาลัยเกษตรก่อนจะขยายผลไปในชุมชนโดยรอบ

ทั้งนี้การบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน นอกจากจะใช้หลักการองค์ความรู้ที่ผสมผสานกันระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชุมชน และทีมผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังจะต้องนำหลักการทางวิชาการมาใช้ควบคู่กันไปด้วย โดยจะมีการจัดทำหลักสูตร “ชลกร” เพื่อยกระดับและต่อยอดองค์ความรู้การจัดการระบบน้ำ เกษตรชลประทาน เพื่อให้เข้าใจในศาสตร์พระราชาในมิติของน้ำเพื่อการเกษตร การบริโภค สำหรับชุมชน ส่งเสริมเกษตรกรมีน้ำทำกิน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

รองนายกฯ วิษณุ-คุณหญิงกัลยา เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ยิ่งใหญ่

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๕ อัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ต้องรู้ 2567
๑๕:๑๐ อมาโด้ (amado) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอลลาเจน คว้า 2 รางวัล จากเวทีธุรกิจ 2024 Thailand's Most Admired Brand (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4) และรางวัล Brand Maker Award
๑๕:๒๒ ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เติมฝันเด็กไฟ-ฟ้า ผ่านโชว์ Cover Dance คว้า 2 รางวัล จุดประกายศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่สำคัญ
๑๕:๑๒ วว. / สสว. นำ วทน. พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน SMEs จัดอบรมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยบรรจุภัณฑ์ ฟรี
๑๓:๕๐ เถ้าแก่น้อย ครองใจผู้บริโภคคว้า 'แบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบที่สุด' จากผลสำรวจ Thailand's Most Admired Brand
๑๓:๓๘ Bose-Backed สมาร์ทวอทช์แบรนด์ Noise เปิดตัวในไทยบน Shopee และ Lazada
๑๒:๑๗ TIDLOR ปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ มูลค่า 4,000 ลบ. ขายหมดเกลี้ยง ขอบคุณนักลงทุนที่ร่วมสร้างผลตอบแทน พร้อมกับสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไปด้วยกัน
๑๒:๔๗ แอล.พี.เอ็น. เปิดโมเดลซัพพอร์ทคนอยากมีบ้าน เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 3 ล้าน ผุดแคมเปญ 'LPN ดูแลให้' และ 'LPN
๑๒:๓๗ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 'Redmi Note 13 Series' ให้คุณกดบัตรคอนเสิร์ต '2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK Presented by Xiaomi' รอบ
๑๒:๐๘ กรมโยธาฯ ใช้มาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้างงานที่ล่าช้าสร้างความเดือดร้อนประชาชน