พระมงคลธีรคุณกล่าวว่า “เมื่อเรามองดูแล้ว เราทุกคนไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าเราจะอยู่อย่างมั่นคง ปลอดภัย หรืออยู่อบอุ่นใจเช่นนี้เสมอไป ทุกคนย่อมเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แน่นอนว่าชีวิต ณ ตอนนี้อาจจะมีความสบาย ผ่อนคลาย แต่ว่าต่อไป ก็ไม่แน่นักว่าจะเป็นอะไร แต่สิ่งที่บอกได้เลยคือ เราต้องดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท และเมื่อเรามีโอกาส เราก็ควรใช้โอกาสนั้นให้เป็นประโยชน์มากที่สุด”
เมื่อพูดถึงคำว่า “ประโยชน์” นั้น ทางศาสนาพุทธ มีหลักอัตถะ 3 หรือประโยชน์ 3 ขั้น ได้แก่ ขั้น “ทิฏฐธัมมิกัตถะ” ขั้นตามองเห็น หมายถึง การที่เราอยู่โดยไม่มีโรค มั่นดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง การที่เรามีงาน มีเงิน ไม่ต้องพึ่งพาใคร การที่เรามีครอบครัวที่อบอุ่น เกื้อกูล รับฟังซึ่งกันและกัน และการมีสถานภาพทางสังคมที่ดีหรือเป็นบุคคลที่มีแต่ผู้คนยกย่องให้เกียรติ นับถือ ขั้นที่สองเรียกว่า “สัมปรายิกัตถะ” ขั้นที่เลยจากมองเห็น หมายถึง ประโยชน์ทางด้านจิตใจและปัญญา ด้านจิตใจคือการที่เรามีความเชื่อ ความศรัทธาในสิ่งที่ดี สิ่งที่จะนำพาชิวิตเราให้ก้าวไปหรือสูงขึ้น ส่วนด้านปัญญา คือเป็นคนที่มีความรู้ ความเข้าใจชัดเจน ไม่ใช้อารมณ์ ความรู้สึกในการตัดสินสิ่งต่าง ๆ และขั้นที่สามคือขั้นสูงสุด หรือเรียกว่า “ปรมัตถะ” หมายถึง การไม่ยึดติด ไม่ยึดมั่นถือมั่น และเป็นคนที่มีความสุขจากตัวเอง จากการปฏิบัติ ไม่ต้องพึ่งพาวัตถุ และมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ตามความเป็นจริง
ท่านแนะว่าการดำเนินชีวิตของปุถุชนอย่างเรา ๆ ให้ “อยู่เหนือโลก” ได้นั้นมีหลักง่าย ๆ คือการรักษาศีล 5 หากเราทำได้แสดงว่าเราเป็นคนที่มีการระงับ ยับยั้ง หักห้ามใจได้ ทำให้เราเป็นคนที่ไม่ได้ทำร้ายผู้อื่น เป็นคนที่มีปัญญา รู้ เข้าใจ และวางท่าทีจิตใจ ให้มีอิสระ และมองเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ไม่ทุกข์หรือสุขเกินไป เพียงเท่านี้เราก็จะ “อยู่เหนือโลก” มีความสุขกับชีวิตและสามารถใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อโลกและสังคมได้แล้ว
สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดี ๆ ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” บุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนเพื่อร่วมฟังธรรมบรรยายในรูปแบบ New Normal จำนวน 50 ที่นั่ง ลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ดเพื่อสำรองที่นั่ง หรือติดตามรับชมผ่านระบบ live สด ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. ทางช่องทาง facebook fanpage CPALL และสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน