นาย เจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการบริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ครบรอบ 2 ปี และปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 อย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกก้าวกระโดดการเติบโตครั้งยิ่งใหญ่ที่ เบสท์ ประเทศไทย หรือ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การดูแลของ BEST Inc. (เบสท์ อิงช) บริษัทแม่ ผู้นำด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอัจฉริยะแบบครบวงจร 1 ใน 3 ธุรกิจโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน โดยมีกลุ่มธุรกิจหลักขนาดใหญ่ขององค์กร อาทิ ธุรกิจเอ็กซ์เพรส ซัพพลายเชน เฟรท และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก ในปีนี้บริษัทฯ ได้ต่อยอดธุรกิจน้องใหม่นอกเหนือจาก เบสท์ เอ็กซ์เพรส อีกหนึ่งธุรกิจโลจิสติกส์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ BEST Supply Chain (เบสท์ ซัพพลายเชน) หรือ Supply Chain Management (SCM) เพื่อให้บริการการบริหารจัดการซัพพลายเชน รองรับการเติบโตตลาดโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วในธุรกิจ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) แบรนด์ธุรกิจ รับ-ส่ง พัสดุด่วนทั่วไทย ถือว่าเป็นการก้าวที่ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น และเมื่อปีที่ผ่านมาเราเติบโตกว่า 380% เนื่องด้วยความเชี่ยวชาญและชำนาญในการบริหารจัดการที่ดีและมีประสิทธิภาพของแฟรนไชส์ท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เราเริ่มทำธุรกิจจากศูนย์ จนถึงวันนี้เรามีพัสดุที่ต้องส่งกว่า 300,000 ชิ้นต่อวัน และติดอันดับ 1 ใน 5 ของแบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนชั้นนำแถวหน้าของประเทศไทย รวมทั้งยังถูกจัดให้อยู่ในแบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนเจ้าแรกที่มีบริการเข้ารับพัสดุ ฟรี ถึงหน้าบ้าน โดยไม่มีขั้นต่ำ รวมถึงมีบริการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติผ่าน Line Official Account :@BESTExpressTH
จากความสำเร็จที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจ BEST Supply Chain ในประเทศไทยที่โตไวแบบก้าวกระโดด ทำให้เรามีปริมาณออเดอร์เข้ามาจำนวนมากในช่วงโปรโมชั่น 11.11 เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของธุรกิจที่สามารถเติบโตไปได้ไวกว่านี้ในเวลาไม่ถึง 1 ปี ทำให้ BEST Supply Chain พร้อมที่จะดำเนินการให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" นาย เจสัน กล่าว
สำหรับแบรนด์ BEST Supply Chain (เบสท์ ซัพพลายเชน) หรือ Supply Chain Management (SCM) ผู้ให้บริการธุรกิจการบริหารจัดการซัพพลายเชนแบบครบวงจร ได้เปิดให้บริการทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้
1). บริการ Order Fulfillment Center (OFC) หรือบริการศูนย์กลางระบบบริหารจัดการคลังสินค้าที่ให้บริการ
2). บริการ Transportation หรือบริการด้านการจัดหารถขนส่งสินค้า
3) บริการ Cross-border หรือบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน
นับได้ว่าปี 2021 นี้ เป็นยุคทองของธุรกิจโลจิสติกส์ที่ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ควบคู่ไปกับธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่เติบโตอย่างมหาศาล ท่ามกลางการใช้ชีวิตวิถีใหม่ในรูปแบบ New Normal โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ ก่อให้เกิดการซื้อสินค้าและการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ทำให้การช้อปปิ้งหรือการขายของออนไลน์กลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชียและทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ชมีการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วยและขนส่งโลจิสติกส์ก็ได้รับผลพลอยได้ไปด้วยเช่นกัน
ที่มา: ซูม พีอาร์
