งานดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “LTE-Inspiring the Life” มีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งไทยและต่างประเทศ ผู้ผลิตชิปเซ็ท และนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมให้ความสนใจเข้าร่วมงานมากมาย เพื่อร่วมแชร์ความคิดเห็นถึงพัฒนาการของเทคโนโลยี LTE/LTE-A รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการติดตั้งและการให้บริการ LTE-A เชิงพาณิชย์ในประเทศไทย
“งานนี้ถือเป็นการสาธิตเทคโนโลยี LTE-A ครั้งแรกในประเทศไทยด้วยการใช้เทคโนโลยีอันก้าวหน้าของหัวเว่ยด้วย Carrier Aggregation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีควบรวมคลื่นความถี่แบบอินเตอร์แบนด์ ที่ให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่ 300 เมกะบิตต่อวินาที” มร. อิง เว่ยหมิง ประธาน กลุ่มเทคโนโลยี GSM/UMTS/ LTE Networks ของหัวเว่ย กล่าว “ในงานนี้ยังมีการสาธิตบริการหลักๆของ LTE อาทิ VoLTE และ eMBMS เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านต่างๆ ของเทคโนโลยี LTE อีกด้วย”
“LTE ถือเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีอุปกรณ์สื่อสารที่รองรับเทคโนโลยี LTE ทั้งสิ้น 1,563 รุ่น โดยเป็นสมาร์ทโฟน 636 รุ่น ในทศวรรษหน้าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี LTE อย่างชัดเจน ทั้งในด้านแอพลิเคชั่นการใช้งานและการเติบโตของการรับส่งข้อมูล เทคโนโลยีนี้จะเชื่อมโยงผู้คนได้มากขึ้น รวมถึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ลูกค้า ทั้งในแง่ของความเร็วในการรับส่งข้อมูล ศักยภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม และมีความล่าช้าน้อยลง หัวเว่ยพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของไทยทุกรายในการพัฒนาเทคโนโลยี LTE ให้ก้าวไปสู่อีกระดับ” เขากล่าวเสริม
ณ เดือนมีนาคม 2557 หัวเว่ยคว้าสัญญา LTE เชิงพาณิชย์ไปแล้วกว่า 290 สัญญา ติดตั้งเครือข่าย LTE เชิงพาณิชย์ไปแล้ว 133 เครือข่าย และเครือข่าย EPC เชิงพาณิชย์อีก 113 เครือข่าย ถือเป็นจำนวนที่สูงกว่าผู้จัดหารายอื่นๆ ด้วยเครือข่ายองค์กรที่ตั้งกระจายอยู่ใน 6 ทวีป เทคโนโลยี LTE ของหัวเว่ยให้บริการครอบคลุมเมืองหลวงและศูนย์กลางการเงินของโลกกว่า 100 แห่ง ทั้งในลอนดอน ฮ่องกง สิงคโปร์ ซูริค โซล โตเกียว เจนีวา และโตรอนโต้ ปัจจุบัน หัวเว่ยช่วยผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระดับโลกมากมายเปิดให้บริการ LTE ในเชิงพาณิชย์ อาทิ Vodafone, Deutsche Telekom, EE, Etisalat, Bell, MTS, SoftBank, STC, Telefonica, Telenor, TeliaSonera, TELUS และอื่นๆอีก มร. อิง กล่าวทิ้งท้าย
ณ สิ้นปี 2556 เทคโนโลยี LTE ของหัวเว่ยสร้างรายได้ถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2557 นี้ โดยหัวเว่ยจะยังลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและนำเสนอโซลูชั่น E2E ที่สร้างสรรค์และเชื่อถือได้แก่ลูกค้า
เทคโนโลยี 4G LTE ของหัวเว่ยทำให้การรับส่งวีดิโอ (Video Streaming) และการดาวน์โหลดอินเตอร์เน็ตทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยไม่มีการหยุดชะงัก เหมาะสำหรับการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ 4G LTE เป็นเทคโนโลยีมาตรฐานล่าสุดของการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงสำหรับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี 3G แล้ว LTE สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าด้วยศักยภาพที่เหนือกว่า ช่วยให้การท่องอินเตอร์เน็ต ทำวีดิโอคอลล์ การค้นหาวีดิโอทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอคอย ให้ความคมชัดของเสียงในการสนทนาผ่านมือถือด้วยคุณภาพที่สูงกว่าด้วย VoLTE (Voice Over LTE) พร้อมทั้งประสบการณ์และบริการใหม่อื่นๆ อีกหลายอย่าง