70% ของบริษัท อุตสาหกรรม ต้องการดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น โดย นายชาร์ลส์ แรธมานน์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการสื่อสารการตลาด บริษัท ไอเอฟเอส

อังคาร ๒๖ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๒:๑๒
การศึกษาชิ้นใหม่แสดงให้เห็นว่า ระบบโมบิลิตี้สำหรับองค์กรเป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในองค์กรธุรกิจ

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขององค์กรธุรกิจได้รับอิทธิพลของดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ซึ่งมีระบุไว้ในบทความของ เอ็มไอที สโลน แมเนจเม้นท์ (MIT Sloan Management Review) เรื่อง " เดอะ ไนน์ อีเลเม้นส์ ออฟ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น" (The Nine Elements of Digital Transformation) โดยเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือการเข้าถึงขององค์กรธุรกิจ

แนวโน้มครั้งสำคัญ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ธุรกิจสำหรับผู้บริโภค เช่น อูเบอร์ (Uber) และ ลิฟ (Lyft) รับรู้ถึงข้อดีของสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพวกเขาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมือถือเพื่อบริหารจัดการแรงงานและข้อเสนอด้านการบริการที่สามารถสร้างความแตกต่างไปจากบริษัทแท็กซี่แบบดั้งเดิมได้เป็นผลสำเร็จ ปัจจุบันองค์กรอุตสาหกรรมกำลังให้ความสนใจที่จะใช้เซ็นเซอร์เพื่อช่วยในการตรวจสอบอุปกรณ์การผลิตและเครื่องจักรอัตโนมัติหรือเซลล์ทำงานทั้งหมด รวมถึงช่วยลดเวลาการหยุดทำงานของระบบโดยนำแนวทางการซ่อมบำรุงตามสภาพที่แท้จริงเข้ามาปรับใช้ในการดำเนินงาน และแน่นอนว่าอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ สำหรับอุตสาหกรรม หรือ ไอไอโอที (Industrial Internet of Things: IIoT) กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากตลาด พร้อมๆ กับที่เซ็นเซอร์มีราคาลดลง มีการเชื่อมต่อเพิ่มมากขึ้น และเครื่องมืออย่าง ไอเอฟเอส ไอโอที บิซิเนส คอนเน็คเตอร์ (IFS IoT Business Connector) ก็กำลังช่วยให้การดำเนินงานของข้อมูล ไอโอที เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

อุตสาหกรรมพร้อมแล้วหรือยัง

ผลการศึกษาครั้งใหม่ของไอเอฟเอสกับบรรดาผู้บริหารในแวดวงอุตสาหกรรมจำนวน 200 คน พบว่าระบบโมบิลิตี้เป็นโอกาสครั้งใหญ่สำหรับองค์กรอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับที่ อูเบอร์ กำลังได้รับ โดยเมื่อพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเรื่องซอฟต์แวร์องค์กรด้านโมบิลิตี้และดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นแสดงให้เห็นว่า บริษัทที่พนักงานมีสิทธิ์เข้าถึงระบบต่างๆ ขององค์กร เช่น การวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) การบริหารจัดการสินทรัพย์ขององค์กร (EAM) หรือการบริหารจัดการบริการภาคสนาม (FSM) ผ่านอุปกรณ์มือถือนั้น ได้มีการเตรียมการสำหรับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นมากกว่าบริษัทอื่นๆ ผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าซอฟต์แวร์องค์กรของตนช่วยให้พวกเขาสามารถเตรียมพร้อมรับมือสำหรับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นได้นั้น มีแนวโน้มในการเข้าถึงซอฟต์แวร์ของตนผ่านอุปกรณ์มือถือมากกว่าผู้ที่ระบุว่าซอฟต์แวร์ของตนยังไม่ดีพอในการช่วยให้พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือกับแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลได้ถึงสองเท่า จะเห็นได้ว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างระบบโมบิลิตี้สำหรับองค์กรกับความพร้อมในการเปลี่ยนแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้เกือบ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงซอฟต์แวร์องค์กรผ่านระบบมือถือเพิ่มมากขึ้นยังอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์กรในดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นได้ในทันทีอีกด้วย โดยมีเพียง 31% เท่านั้นที่ตอบว่าพวกเขามีสิทธิ์เข้าถึงซอฟต์แวร์ขององค์กรจากโทรศัพท์มือถือได้

ทำไมระบบโมบิลิตี้จึงมีความสำคัญ

ศักยภาพของระบบโมบิลิตี้สำหรับองค์กรที่มีต่อการแปรรูปของบริษัทอุตสาหกรรมเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ การเข้าถึงซอฟต์แวร์ต่างๆ เช่น อีอาร์พี (ERP) อีเอเอ็ม (EAM) และเอฟเอสเอ็ม (FSM) ผ่านมือถือจะผลักดันให้เกิดสิ่งต่อไปนี้

• การเก็บรวบรวมข้อมูลองค์กรอย่างถูกต้องและเรียลไทม์เพื่อช่วยในการดำเนินงานและการสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• การปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในระบบของการให้บริการภาคสนาม

• การเพิ่มเวลาในการผลิตของพนักงานด้านเทคนิคโดยช่วยให้พวกเขาสามารถโต้ตอบกับระบบต่างๆ เช่น อีเอเอ็ม หรือระบบจัดการงานบำรุงรักษาด้วยคอมพิวเตอร์ (CMMS) ในขณะที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ให้บริการหรือกับเครื่องจักรในโรงงาน

• พนักงานและระบบขององค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะขั้นสูงของโทรศัพท์มือถือ รวมถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และกล้องถ่ายรูปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

• การปรับปรุงปริมาณและคุณภาพของข้อมูลเพื่อให้พร้อมสำหรับการบริการลูกค้า ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาในการให้บริการภาคสนามได้สำเร็จในครั้งแรก การแก้ไขปัญหามีความเชื่อถือได้และลดเวลาการหยุดทำงานของระบบต่างๆ ในโรงงานได้อย่างเห็นผล

• การจูงใจให้ผู้ใช้เข้ามามีส่วนร่วมในการใช้งานระบบซอฟต์แวร์บ่อยยิ่งขึ้น จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนสำหรับซอฟต์แวร์ระดับองค์กรได้

นายริก วีก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ของบริษัท ไอเอฟเอส ในทวีปอเมริกาเหนือ ระบุว่า การผลักดันให้เกิดการเข้ามามีส่วนร่วมในระบบขององค์กรเพิ่มมากขึ้นถือเป็นข้อดีที่สำคัญ เพราะสิ่งนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการนำระบบโมบิลิตี้สำหรับองค์กรเข้ามาช่วยแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัล

"ระบบมือถือแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีศักยภาพในดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น" นายวีก กล่าว และว่า "เมื่อผู้คนหันใช้ซอฟต์แวร์องค์กรผ่านโทรศัพท์มือถือ แสดงว่าระบบได้กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งในการดำเนินธุรกิจ พนักงานของคุณสามารถเชื่อมต่อกับกระบวนการดำเนินงานที่สำคัญดังกล่าวและสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานได้แม้จะไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานก็ตาม หากไม่สามารถทำเช่นที่กล่าวมานี้ได้ คุณก็จะต้องเตรียมต่อสู้กับสิ่งต่างๆ มากมายในดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น"

ทั้งนี้ ผู้เขียนบทความของเอ็มไอที สโลน แมเนจเม้นท์ รีวิว (MIT Sloan Management Review) ได้ทำการศึกษาผู้บริหาร 157 คนในบริษัท 50 แห่ง และได้พบองค์ประกอบสำคัญ 9 ประการในดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ซึ่งรวมถึงการสร้างความพร้อมของพนักงานและการแปรรูปกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล และดูเหมือนจะหลายคนจะได้แบ่งปันมุมมองของวีกเกี่ยวกับสิ่งสำคัญของบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๔ กลุ่ม KTIS จับมือ Marubeni ประสานความร่วมมือในการขายเครดิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
๑๔:๒๐ ผู้ถือหุ้น TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด อัตรา 27 หุ้นสามัญ : 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสด 0.2698 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 67 รับทรัพย์ 14
๑๔:๔๙ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย
๑๔:๑๐ สสวท. เติมความรู้คู่กีฬากับ เคมีในสระว่ายน้ำ
๑๓:๐๓ ฉุดไม่อยู่! ซีรีส์ Kiseki ฤดูปาฏิหาริย์ กระแสแรง ขึ้น TOP3 บน Viu ตอกย้ำความฮอต
๑๔:๒๔ TM บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม 9
๑๔:๑๒ ผถห. JR อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมโชว์ Backlog แน่น 9,243 ลบ.
๑๔:๕๐ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ
๑๔:๓๔ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 10,524 ล้านบาท
๑๔:๑๔ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ