โครงการ "Capital Market Innovation Awards 2018" จัดขึ้นโดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย จัดขึ้น เพื่อขยายการส่งเสริมไปยังภาคตลาดทุนให้เกิดนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ตามกรอบกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (2561-2563) Towards Sustainable Growth with Innovation ที่เน้นการสร้างความยั่งยืน พัฒนาตลาดทุนโดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้องยุค 4.0 เป็นครั้งแรกของภาคตลาดทุนไทย และช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ โดยมีผู้ร่วมส่งผลงานทั้งจากหน่วยงานในภาคตลาดทุน มหาวิทยาลัย ฟินเทค และประชาชนทั่วไป มากกว่า 70 ผลงาน
odini เพิ่งได้รับเลือกเป็นพันธมิตรธุรกิจเข้าร่วมโครงการ 5 ขั้นมั่นใจลงทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และในเดือนตุลาคม ก็สามารถคว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมตลาดทุนได้ ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวได้เพียง 3 เดือน เป็นการตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชัน odini จาก 2 หน่วยงาน ซึ่งเป็นเสาหลักของตลาดทุนอย่าง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผลักดันอย่างชัดเจนว่าต้องการให้คนไทย "ลงทุนง่าย ได้ทุกคน" ผ่านกองทุนรวมกับแอปลงทุนอัตโนมัติ odini ที่เข้ามาแก้ Pain points ของคนไทยได้อย่างตรงจุด ผนวกกับการสร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรม Robo-advisor มาใช้กับตลาดกองทุนรวม ได้อย่างถูกที่และถูกเวลา หากย้อนเวลากลับไปเมื่อสองปีก่อน แล้วมองสิ่งที่เหล่า Co-founders คิดจะทำนั้น หลายคนคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในประเทศไทย แต่ด้วยความตั้งใจอยากให้คนไทยได้ลงทุนแบบ Asset Allocation ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ซึ่งสามารถลงทุนได้แบบต่อเนื่องผ่านการทำ DCA เพื่อตัดเงินจากบัญชีเงินฝากมาลงทุนแบบอัตโนมัติ พร้อมกับ Rebalance Portfolio ให้ทันกับสถานการณ์การลงทุน ซึ่งบริการเหล่านี้ในอดีตผู้ที่จะได้รับบริการต้องมีเงินทุนเป็นสิบล้านเท่านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นคือ การให้บริการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนผ่านแอป (eKYC) ซึ่งหลายคนยังมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของอนาคต แต่แอปพลิเคชัน odini สามารถทำให้เป็นเรื่องของปัจจุบันเพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถเปิดบัญชีเริ่มต้นลงทุนได้อย่างสะดวกที่สุด
ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลน. โรโบเวลธ์ จำกัด เล่าถึงที่มาของแอปพลิเคชัน odini (โอดีนี่) ว่า ในขณะที่เราเป็นประเทศสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ที่กำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) แต่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกลับยังไม่ได้เริ่มต้นลงทุนเลย เนื่องจากขาดช่องทางการลงทุนที่ง่ายและสะดวก สังคมไทยจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยให้การลงทุนเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับคนทุกชนชั้น ดังนั้นเราจึงนำนวัตกรรม Robo-advisor ที่ใช้ Quantitative Model มาทำ Asset Allocation และเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสม รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขายแบบอัตโนมัติ เพื่อวางแผนการลงทุนให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของผู้ลงทุนแต่ละคน โดยภายในเดือนตุลาคม 2561 odini พร้อมแล้วที่จะให้บริการพอร์ต LTF เพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งยังคงชูจุดเด่นในความง่าย และการทำงานแบบอัตโนมัติไว้เช่นเดิม โดยมีการจัดสัดส่วนของเงินลงทุนใน LTF 3 กองทุน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่สร้างผลตอบแทนดีและสม่ำเสมอที่สุดจากชุดกองทุนที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้น ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยไม่เสี่ยงลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งด้วยเงินทั้งหมด
สำหรับผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน odini ได้แล้วที่ App Store และ Google Play Store หรือ ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.odiniapp.com และที่ facebook.com/odiniapp