ปัจจุบันทีมงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยขององค์กรนั้นต้องเผชิญกับภาวะที่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์จำนวนมากเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถปกป้องเอนด์พอยท์ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งตามมาด้วยการแจ้งเตือนและข้อมูล Log ที่ต้องจัดเก็บปริมาณมหาศาล ทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่ออันตรายขั้นสูงจำนวนมากในปัจจุบันได้รวดเร็วเพียงพอ
"นวัตกรรมล่าสุดของเรานี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาด้านการจัดการความปลอดภัยของเอนด์พอยท์ที่พบในตลาดปัจจุบันเป็นสำคัญ" เควิน ซิมเซอร์ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของเทรนด์ไมโครกล่าว "ท่ามกลางผู้จำหน่ายจำนวนมากที่ต่างอ้างว่าตนเองเป็นแบบ Next-Gen แต่ที่จริงแล้วระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องใช้ระบบความปลอดภัยหลายระดับชั้นเข้าด้วยกัน ซึ่งจุดนี้เป็นรากฐานของยุทธศาสตร์ของเรา ทำให้ Apex One(TM) เป็นทางเลือกใหม่แบบสำเร็จรูปที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด สำหรับธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนจากการใช้ระบบแอนติไวรัสแบบเดิม หรือกำลังวุ่นวายกับผลิตภัณฑ์ Next-Gen อื่น ๆ จำนวนมาก"
Trend Micro Apex One(TM) มีจุดเด่นอยู่ 3 ประการ ได้แก่:
- การตรวจจับและตอบสนองโดยอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์ Apex One(TM)ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากเทคนิคความปลอดภัยแบบ XGen(TM) ที่เป็นการผสานรวมเอาระบบป้องกันอันตรายจากหลายยุคหลายสมัยมาผ่านระบบการตัดสินใจแบบอัจฉริยะเพื่อเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจัดการกับแต่ละกรณีรวมทั้งมีระบบเวอร์ช่วลแพชชิ่งที่ติดตั้งได้ทันเวลาอย่างรวดเร็วมากที่สุดจากทีม Zero Day Initiative ของเทรนด์ไมโคร ผนวกรวมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมายที่สามารถตรวจจับและสกัดกั้นการโจมตีขั้นสูงตอนนี้ได้ โดยเฉพาะอันตรายจากมัลแวร์แบบไร้ไฟล์
- ให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปจัดการต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใน Apex One(TM) นี้มีฟีเจอร์การตรวจจับและตอบสนองบนเอนด์พอยท์หรือ EDR ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก รวมทั้งเชื่อมต่อกับบริการตรวจจับและตอบสนองอัจฉริยะผ่านคลาวด์ (MDR) ของเทรนด์ไมโคร ที่ช่วยเพิ่มความสามารถแก่เจ้าหน้าที่ไอทีภายในองค์กรในการตามล่ากำจัดอันตราย รวมทั้งตรวจสอบการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
- เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจร: Apex One(TM) มีฟีเจอร์ชั้นนำในตลาดจำนวนมาก รวมอยู่ในเอเจนต์ตัวเดียว ขณะที่ผู้จำหน่ายรายอื่นมีฟีเจอร์เด่น ๆ เพียงหนึ่งหรือสองฟีเจอร์เท่านั้น เรียกได้ว่า ความสามารถด้าน EDR และเครื่องมือตรวจจับและจัดการอันตรายแบบอัตโนมัติของ Apex One(TM) อันทรงพลังนี้ ช่วยทำให้การติดตั้งและใช้งานง่ายขึ้นมาก รวมถึงตัดปัญหาเรื่องเนื้อที่จัดเก็บข้อมูล Log มหาศาลด้วย
ด้วยจุดเด่นทั้ง 3 ข้อข้างต้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ Trend Micro Apex One(TM) เป็นโอกาสในการเติบโตอย่างมากสำหรับพาร์ทเนอร์และช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ที่กำลังมองหาโซลูชั่นที่มีคุณค่าสูง และตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยขององค์กรต่าง ๆ ได้ตรงจุด
"ทุกวันนี้ ทั้งผู้จัดจำหน่าย รวมไปถึงผู้ที่อำนาจการตัดสินใจด้านไอทีในองค์กร มักเกิดความสับสนจากตัวเลือกและข้อมูลมากมายในตลาดผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งสำหรับความปลอดภัยเอนด์พอยท์แล้ว เราสนับสนุนให้พิจารณาจากประสิทธิภาพ, การยกระดับความปลอดภัย, และความยืดหยุ่นในการติดตั้งใช้งานที่ผ่านการตรวจสอบและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างแล้วสำหรับแต่ละโซลูชั่น" โดว์ คาฮิลล์ นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้อำนวยการกลุ่มงานที่ ESG กล่าว "จากความสามารถทั้งการตรวจจับได้โดยอัตโนมัติ และการตรวจสอบอันตรายแบบ EDR ที่รวมอยู่ในเอเจนต์ตัวเดียวที่ติดตั้งได้ง่าย และให้การป้องกันที่เหมาะสมในแต่ละกรณีนั้น ถือว่าเทรนด์ไมโครได้ปฏิวัติแนวทางโฉมใหม่สำหรับการปกป้องเอนด์พอยท์อย่างแท้จริง"
"ธุรกิจของเราต้องเผชิญกับภาวะกดดันด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่ต้องปกป้องตัวเองจากอันตรายที่คุกคามเข้ามามากขึ้นอย่างเช่น มัลแวร์แบบ Fileless และแรนซั่มแวร์ รวมทั้งต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานและกฎหมายด้านความปลอดภัยด้วยควบคู่กัน" ทิม มาซี่ย์ ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Carhartt กล่าว "ซึ่งวันนี้ เทรนด์ไมโครได้ให้ระบบความปลอดภัยสำหรับเอนด์พอยท์ขั้นสูงที่มีประสิทธิภาพมาก ทำให้เราคาดหวังกับความสามารถใหม่ ๆ ที่จะมาพร้อมกับ Apex One(TM)"
ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ในรูปเอเจนต์ตัวเดียว พร้อมจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 จะเข้ามาฉีกรูปแบบการติดตั้งให้ง่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการยุคนี้ทั้งในด้านการปกป้องจากอันตราย และการทำให้ได้ตามมาตรฐานที่เข้มงวด Apex One(TM) นี้จะเป็นฟีเจอร์เสริมบนผลิตภัณฑ์ OfficeScanเดิมของเทรนด์ไมโคร ซึ่งลูกค้า OfficeScan ปัจจุบันจะได้รับการอัพเดทตัว Apex One(TM) ใหม่นี้ด้วยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แม้ฟีเจอร์บางอย่างเช่นการตรวจสอบอันตรายแบบ EDR อาจต้องใช้ไลเซนส์เพิ่มเติม ขึ้นกับรูปแบบของการติดตั้งผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมนั้น เยี่ยมชมได้ที่ www.trendmicro.com/apexone