เมื่อโลกไซเบอร์หลอมรวมกับโลกกายภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีโตชิบามีวิสัยทัศน์ต่อโลกอนาคตนี้อย่างไร (ตอนที่ 2)

จันทร์ ๒๘ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๕:๕๔
ในยุคปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนถูกเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต เราได้เดินทางกันมาถึงจุดที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) ในโลกไซเบอร์สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ยุคที่โอกาสทางธุรกิจเกิดขึ้นได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค และสิ่งของอุปกรณ์ต่างๆ ในโลกกายภาพ อาทิ สถานะการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือระดับความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า

โตชิบามีเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นองค์กรชั้นนำด้านเทคโนโลยี Cyber Physical Systems (CPS) ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีโลกไซเบอร์และโลกกายภาพ หรือโลกแห่งความเป็นจริง ในตอนที่ 2 ของการสัมภาษณ์กับ ดร. ชิโระ ไซโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี โตชิบา คอร์ปอเรชั่น เกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีของโตชิบา เราจะเจาะลึกถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่โตชิบาต้องการสร้างจนสัมฤทธิ์ผล รวมถึงความคาดหวังที่ ดร. ไซโตะ มีต่อนักวิจัยและวิศวกรของโตชิบา

คำถาม เมื่อพูดถึงการพัฒนาเทคโนโลยี โตชิบาจะต้องเปลี่ยนแปลงความคิดในด้านใดบ้าง

ไซโตะ: ในอดีตเราเคยคิดว่าเราสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อเราเข้าสู่สังคมแห่งข้อมูลข่าวสาร เราก็ตระหนักว่าความคิดนั้นมันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เราจำเป็นต้องร่วมมือกับผู้อื่นในด้านวิจัยและพัฒนา สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ติดกับดักทางความคิดว่าต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว เมื่อเข้าใจเช่นนี้แล้ว เราจึงสนับสนุนเรื่อง "open innovation" ตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของการวิจัย และได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ รวมถึงสถาบันค้นคว้าวิจัยทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ อย่างเช่น การพัฒนาเทคโนโลยีประมวลผลทางภาษาร่วมกับ Chinese Academy of Sciences และเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลกับทาง Indian Institute of Science

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ผมขอยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่เรากำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ด้วยความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งก็คือการเข้ารหัสลับควอนตัม (Quantum Cryptographic Communication) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถส่งผ่านข้อมูลที่เป็นความลับ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล และธุรกรรมทางการเงิน ด้วยวิธีที่จะไม่ถูกแฮ็กหรือขโมยข้อมูลได้

ปัญหาที่เราพบในการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ คือ ความรวดเร็วและระยะทางสำหรับการส่งมอบกุญแจไขรหัสข้อมูล แต่ในจุดนี้ โตชิบาก็ได้สร้างสถิติโลกทั้งในด้านความเร็วและระยะทาง และเรายังทำการวิจัยและพัฒนาด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเพื่อพัฒนาตัวฮาร์ดแวร์ที่ลดการใช้พลังงานจากชิป AI ซึ่งในจุดนี้ก็มีความก้าวหน้าเป็นอย่างดี โดยล่าสุดเราประสบความสำเร็จในการลดการใช้พลังงานไปได้ถึง 88%

ในส่วนของการสร้างธุรกิจใหม่ๆ เราจะปล่อยเมล็ดพันธุ์ทางธุรกิจที่สร้างขึ้นผ่านการวิจัยและพัฒนาออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงแรก โดยนอกเหนือจากกลไกการเรียนรู้ที่ได้รับจากฟีดแบ็กและข้อเสนอแนะต่างๆ เรายังได้จัดตั้งเงินกองทุนสำหรับบริษัทร่วมทุนถึงหนึ่งหมื่นล้านเยน เพื่อใช้ในการสร้างธุรกิจใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องหรือต่อยอดจากธุรกิจที่มีอยู่เดิม

คำถาม โตชิบาได้เข้ามามีส่วนร่วมในด้านเทคโนโลยีสำหรับการรักษาที่มีความแม่นยำทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง มีเทคโนโลยีอันใดบ้างที่คุณมีความคาดหวังไว้สูง

ไซโตะ: โตชิบามีการค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์มากมาย ทั้งด้านการป้องกัน การตรวจคัดกรอง การวินิจฉัยโรค และการรักษา และหนึ่งในนั้นคือเครื่องฉายลำแสงอนุภาคหนักสำหรับการรักษามะเร็ง ซึ่งจะเร่งลำแสงอนุภาคหนักจากคาร์บอนด้วยความเร็วแสง 70% เพื่อฉายรังสีกำจัดเซลล์มะเร็ง โดยเครื่องนี้ใช้เทคโนโลยีหลักๆ สองตัว คือ กล้องหมุนเพื่อฉายรังสีเซลล์มะเร็ง ซึ่งเราใช้แม่เหล็กเข้ามาช่วยลดขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่อง การที่ตัวกล้องหมุนได้ยังช่วยลดเวลาการรักษาคนไข้โดยไม่จำเป็นต้องพลิกตัว อีกหนึ่งเทคโนโลยีคือ การรับรู้ภาพเพื่อหาตำแหน่งของเนื้องอก และฉายแสงตามการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย ทำให้เราสามารถกำจัดเนื้องอกได้โดยไม่ทิ้งบาดแผลภายในร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งเทคโนโลยีทั้งสองอันนี้ช่วยลดความเสียหายให้กับผู้ป่วยได้มาก

นอกจากนี้ เรายังมีเทคโนโลยีเพื่อรักษาโรคมะเร็งอื่นๆ อีก เช่น ไลโปโซมชีวภาพย่อยสลายได้ อธิบายง่ายๆ ได้ว่ามันเป็นแคปซูลขนาดจิ๋วเพียง 100-200 นาโนเมตร จึงสามารถใส่เข้าไปในเซลล์ในร่างกายมนุษย์เพื่อทำหน้าที่ค้นหาเซลล์มะเร็งได้ โดยกลไกการทำงานคือการผสมยีนทดสอบเข้าไปในแคปซูลแล้วใส่เข้าไปในเซลล์ผ่านเมมเบรน ซึ่งเมื่อตัวแคปซูลย่อยสลายจะสามารถตอบสนองต่อเซลล์มะเร็งได้ด้วยการเรืองแสงออกมา ทำให้สามารถตรวจหาเซลล์มะเร็งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ และจะนำไปสู่การหาหนทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

คำถาม เนื่องจากคุณมีการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในหลากหลายด้าน คุณมีแนวคิดอย่างไรกับการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาในอนาคต

ไซโตะ: เราวางแผนจะใช้เงินลงทุนกว่า 930 พันล้านเยนเพื่อการวิจัยและพัฒนาในช่วง 5 ปีข้างหน้า ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน และในด้านต่างๆ ที่ผมเคยได้ระบุไปก่อนหน้านี้คือ แบตเตอรี่ SCiB อิเล็กทรอนิกส์กำลัง และวิทยาการหุ่นยนต์ ส่วนตัวเซมิคอนดักเตอร์เราเน้นลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และตัวจัดเก็บข้อมูล HDD สำหรับศูนย์ข้อมูลต่างๆ นอกจากนี้ ในด้านของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เราจะให้ความสำคัญกับการลงทุนพัฒนา SPINEXTM ซึ่งเป็นแม่แบบสถาปัตยกรรม IoT ที่เราจะใช้ในการปฏิรูปธุรกิจ ตัว RECAIUSTM ซึ่งเป็น AI การสื่อสารของโตชิบา และ SATLYSTM ซึ่งเป็น AI เพื่อการคิดวิเคราะห์

ยิ่งไปกว่านี้ เรายังต้องคิดถึงการสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ แต่ผลิตภัณฑ์บางตัวยังไม่ได้ดัดแปลงหรือปรับให้ได้มาตรฐาน ซึ่งผมอยากจะพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของทั้งกระบวนการตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการค้นคว้าและพัฒนา ในมุมมองขององค์กร เราต้องการโครงสร้างที่สามารถดึงห้องทดลองและสถาบันวิจัยในต่างประเทศของเราเข้ามาด้วยเพื่อร่วมสร้างสรรค์เทคโนโลยี ตั้งแต่การวิจัยพื้นฐานที่เป็นตัวก่อกำเนิดเมล็ดพันธุ์ทางธุรกิจ ไปจนถึงการพัฒนาค้นคว้าเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตและการบำรุงรักษา

ในด้านการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์สำหรับลูกค้าแบบ B2C วิธีการที่เราเลือกใช้มาตลอดจนถึงปัจจุบันคือการสร้างสรรค์และบ่มเพาะไอเดียผลิตภัณฑ์จากในห้องทดลอง จนสามารถผลิตและออกวางขายสู่ตลาดได้ แต่สำหรับลูกค้า B2B เราต้องวิเคราะห์สอบถามถึงปัญหาในการทำงานที่ลูกค้าพบเจอ เพื่อนำมาใช้ในการวิจัยและพัฒนา และเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต

คำถาม คุณคาดหวังอะไรจากบรรดานักวิจัยและวิศวกรบ้าง

ไซโตะ: ตอนที่ผมได้ไปเยี่ยมฐานการวิจัยและพัฒนาของเราทั้งในญี่ปุ่นและที่ต่างประเทศ ผมได้พูดคุยกับพนักงานแต่ละที่และพบว่าหลายคนมีความสนใจที่จะนำเสนอไอเดียของตัวเองเพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา ซึ่งเราก็พยายามหาช่องทางที่จะมาตอบสนองในจุดนี้ อย่างเช่นกองทุน CVC หนึ่งหมื่นล้านเยนที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น ผมคิดว่าที่ผ่านมาเรามัวแต่กังวลเรื่องความสมบูรณ์แบบ และคุณภาพของสินค้ามากเกินไป แน่นอนว่าเราคงไม่ยอมปล่อยสินค้าคุณภาพต่ำออกสู่ตลาด แต่เราเริ่มเรียนรู้ว่า ถ้าเราปล่อยผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพสูงประมาณหนึ่งที่เรายอมรับได้ เราก็จะสามารถนำเสียงตอบรับจากลูกค้ามาใช้ในการพัฒนาสินค้าต่อไปได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถนำความรู้และเทคโนโลยีจากภายนอกองค์กรเข้ามาร่วมพัฒนาได้ ซึ่งผมคิดว่าการทำงานแบบนี้ก็ถือว่าใช้ได้เช่นกัน

เทคโนโลยีในทุกวันนี้มีความแยกย่อยค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีเฉพาะกลุ่มมาผลิตสิ่งต่างๆ นั้นทำได้ยาก เนื่องจากหัวใจของการประดิษฐ์คือการสร้าง 1 ขึ้นจาก 0 เราจึงต้องหาข้อเสนอและการแก้ปัญหาโดยการหลอมรวมเทคโนโลยีต่างๆ เข้าด้วยกัน ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เรียกว่า นวัตกรรม อย่างแท้จริง ดังนั้นจึงสำคัญมากที่นักวิจัยและนักเทคนิคควรจะต้องเปิดหูเปิดตาให้กว้าง ไม่ใช่จดจ่ออยู่เพียงในโลกของตนเท่านั้น

พื้นฐานของการวิจัยและพัฒนาของเราคือการแก้ปัญหาทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับ Megatrend ทั้งหลาย ซึ่งสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้คือการเดินตามวิธีการที่ SDGs ได้วาดเอาไว้ แต่ต่อไปในอนาคต ผมอยากให้นักวิจัยและนักพัฒนาของเราทำงานด้วยความตระหนักรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อหนทางสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคม

ผมจะยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าพวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตัวเองคือผู้ที่จะสร้างสิ่งใหม่และเป็นผู้ที่จะเปิดอนาคตให้กับองค์กรของเรา ในฐานะองค์กร โตชิบารอคอยและคาดหวังอยู่เสมอว่าเราจะได้เห็นไอเดียใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิมที่เรามีอยู่ในปัจจุบันก็ได้ ทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีอะไรต้องกลัว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้