บลูบิคกรุ๊ปลุยลงทุนสตาร์ทอัพเพิ่มองค์ความรู้เสริมจุดแข็ง มุ่งกลั่นเทคโนโลยี อินโนเวชั่นช่วยลูกค้าเสริมเขี้ยวเล็บ

พฤหัส ๑๑ กรกฎาคม ๒๐๑๙ ๑๓:๓๕
บลูบิคกรุ๊ป ที่ปรึกษาสัญชาติไทยด้านกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนากลยุทธ์ดิจิทัลเพื่อการแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต กางกลยุทธ์เสริมจุดแข็งมุ่งลงทุนสตาร์ทอัพ ศักยภาพที่มีโอกาสเติบโตในระดับนานาชาติ ช่วยเสริมจุดแข็ง มีองค์ความรู้ดิจิทัล รู้ลึก รู้จริง เหนือคู่แข่งไทยและต่างชาติ ปูทางสู่เป้าหมายผู้นำบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการภายในปี 2020 เผยที่ลงทุนผ่านสตาร์ทอัพไปแล้ว 6 บริษัท พร้อมลุยลงทุนเพิ่มอีก 2 บริษัท ภายในปีหน้า พุ่งเป้าไปที่กลุ่มเทคโนโลยี IoT, AI ,EV และ Fashion ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจลูกค้า

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หนึ่งในกลยุทธ์สร้างจุดแข็งและความแตกต่างของบริษัทในธุรกิจบริษัทที่ปรึกษา ด้วยการมีองค์ความรู้เกี่ยวกับดิจิทัล โดยสามารถนำเอานวัตกรรม เทคโนโลยี รวมถึงแนวคิดใหม่ที่ใช้ในระดับสากล มาใช้ยกระดับธุรกิจของลูกค้าให้สามารถแข่งขันในโลกดิจิทัลได้ โดยบลูบิคตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์ (Strategy) และการนำไปปฏิบัติการ (implementation) ภายในปี 2563 โดยมีวางตำแหน่งของบลูบิคเป็นพาร์ทเนอร์ของลูกค้า ไม่ใช่เป็นเพียงบริษัทที่ปรึกษาเท่านั้น และเมื่อลูกค้าต้องการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจด้วยธุรกิจ บลูบิคจะเป็นบริษัทที่ปรึกษารายแรกที่ลูกค้านึกถึง

ทั้งนี้ การสร้างจุดยืนให้บริษัทฯ เป็นผู้นำตามเป้าหมายที่กล่าวมา คือการนำจุดแข็งที่มีของบริษัท นั่นคือการมีองค์ความรู้ที่ลึกซึ้ง และมีความเข้าใจที่เหนือกว่า ด้วยการเข้าไปลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่เป็น Deep Technology หรือ บริษัทสตาร์ทอัพที่มีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความลึกซึ้ง ซับซ้อนมาใช้ โดยเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตในระดับนานาชาติ เพื่อให้ได้มาซึ่งองค์ความรู้ที่สำคัญ อันจะเป็นตัวช่วยในการพัฒนาธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านดิจิทัล

"ทุกวันนี้หากเราพูดถึงนวัตกรรม ส่วนใหญ่มักมาจากสตาร์ทอัพ เพราะสตาร์ทอัพคิดได้มากกว่าบริษัทดั้งเดิม เนื่องจากมีความคล่องตัวมากกว่า มีบุคลากรคนรุ่นใหม่ มีมันสมองเป็นระดับหัวกะทิ และมีความเข้าใจในเทคโนโลยี เนื่องจากเกิดมาพร้อมกับยุคดิจิทัล ทำให้มีความได้เปรียบ บลูบิคจึงมีแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้เปรียบแบบสตาร์ทอัพเหล่านั้น คำตอบคือต้องคิดอย่างสตาร์ทอัพให้เป็น เพราะฉะนั้นการเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพคือ การเข้าไปร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ ควบคู่กับการทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปพร้อมกัน ส่งผลให้บลูบิคมีความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับการนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และการให้คำปรึกษาไม่ได้เป็นการให้คำปรึกษาในภาพกว้างอย่างเดียว แต่จะลงลึกไปยังแต่ละส่วนอย่างละเอียด ด้วยองค์ความรู้จากสตาร์อัพที่เป็นพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ในเรื่องการทำ อินโนเวชั่น ดีไซน์ การนำเอาแนวทางการทำงานใหม่ ๆ ในระดับโลกมาใช้ เช่น แนวคิดแบบ Design Thinking เป็นต้น" นายพชร กล่าว

นายพชร กล่าวเสริมอีกว่า ที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ ในกลุ่มต่าง ๆ แล้วมากกว่า 6 บริษัท ประกอบด้วย Blue Parking ผู้ให้บริการที่จอดรถอัจฉริยะโดยใช้ IoT ระบบจดจำป้ายทะเบียนอัตโนมัติ และระบบคลาวด์เพื่อสร้างความสะดวกสูงสุดให้ผู้ขับขี่, Keeps แฟชั่นเฮาส์เพื่อคนทำงานผ่านประสบการณ์แบบ Omni-channel , Oxygen AI ผู้นำด้านระบบ Video Analytics และ Conversational Chatbot, Ingenio ผู้ให้บริการ Solution ด้าน Big Data เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ รวมทั้ง ETRAN ใน บริษัท อัลมอนด์ ดิจิทัล กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของบลูบิคกรุ๊ป ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ประสิทธิภาพสูงที่ขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า และ Cashnow , และมีแผนลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพเพิ่มอีก 2 บริษัทภายในปีหน้า โดยได้เน้นการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นเทรนด์สำคัญ มีบทบาทต่อการสร้างโอกาสทางการแข่งขันให้กับธุรกิจของลูกค้า ด้วยการลดต้นทุนและสร้างโอกาส ได้แก่

1. Internet of Things (IoT) การทำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันเชื่อมต่อเข้าสู่ Internet เพื่อรับส่งข้อมูลและสั่งการผ่านระบบอัตโนมัติได้

2.ปัญญาประดิษฐ์ (AI ) การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการจดจำใบหน้าตา ตรวจสอบอัตลักษณ์ การติดตามและการตรวจจับวัตถุ การพูดคุยกับลูกค้าผ่าน Chatbot หรือแม้กระทั่ง การแนะนำบริการหรือสินค้าให้ลูกค้าอัตโนมัติ

3. EV ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและมีประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

4. Big data & analytics การนำเอาข้อมูลจำนวนมากมาวิเคราะห์หาอินไซด์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ

5. Fintech การนำเทคโนโลยีมาใช้สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน

6. Retail Tech นำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารประสบการณ์ลูกค้าและลดต้นทุนในธุรกิจค้าปลีก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest