ตัวแทนจากศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฉงชิ่ง (ศูนย์ข้อมูล) รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่น และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้เข้าร่วมการสัมภาษณ์ออนไลน์ครั้งนี้ โดยได้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี 5G ยกระดับคุณภาพและประสบการณ์การท่องเที่ยว รวมถึงการจัดการจุดชมวิวอัจฉริยะ
คุณหลิว ผู้บริหารศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฉงชิ่ง กล่าวว่า "การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้า และ 5G ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอัจฉริยะ โดยคณะกรรมาธิการพัฒนาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวนครฉงชิ่งให้ความสำคัญอย่างมากกับการสร้างการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอัจฉริยะในฉงชิ่ง" ทั้งนี้ ฉงชิ่งได้สร้างสถานีวิทยุและโทรทัศน์ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอัจฉริยะระบบคลาวด์ เพื่อบูรณาการระบบและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน เพื่อบริหารจัดการและให้บริการอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ฉงชิ่งได้รุกส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงการสร้างจุดชมวิวอัจฉริยะและหมู่บ้านท่องเที่ยวอัจฉริยะ โดยขณะนี้กำลังมีการสร้างจุดชมวิวอัจฉริยะ 56 แห่ง และหมู่บ้านท่องเที่ยวอัจฉริยะ 54 แห่ง
จุดชมวิวอัจฉริยะ ร้านหนังสืออัจฉริยะ พิพิธภัณฑ์อัจฉริยะ และจุดสาธิตการใช้ 5G บูรณาการวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และธุรกิจ กำลังถูกสร้างขึ้นใจกลางนครฉงชิ่ง ยกตัวอย่างเช่น เขตหยูจงได้พัฒนาประสบการณ์การท่องเที่ยวระบบคลาวด์ ด้วยบริการแผนที่ 3 มิติและทัวร์แบบพาโนรามาออนไลน์ รวมถึงคิวอาร์โค้ดให้ข้อมูลอนุสรณ์สถานและอาคารทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ
กระเช้าไฟฟ้าข้ามแม่น้ำแยงซีของฉงชิ่งใช้โปรแกรม 5G cableway VR supersensory experience program เป็นที่แรกในจีน ช่วยให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้าแถวหรือสภาพอากาศที่เลวร้าย เพราะสวมแว่น VR เพียง 3 นาทีก็ได้ชมวิวแม่น้ำแยงซีอย่างเต็มตาแบบเรียลไทม์
ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือน “หงหยาตง” มากถึง 18 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับสองเป็นรองแค่พระราชวังต้องห้าม สถานที่นี้มีบริการออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถนัดแนะ ค้นหาร้านอาหาร ร้านค้า และจุดชมวิวผ่าน WeChat ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีน
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200913/2915325-1