โคโคเทลมาพร้อมกับแนวคิด"bed and cafe" และตั้งเป้าที่จะขยายกิจการโรงแรมไปเป็น 80 แห่งในปี 2021 และเป็น 1,000 แห่งในปี 2026 โดยได้มีเป้าหมายหลักเฉพาะอยู่ที่กลุ่มครอบครัวและลูกค้าผู้หญิง ซึ่งเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ยังไม่เคยมีใครจับมาก่อน โดยโคโคเทล อ่าวนางได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2017 และโคโคเทล ภูเก็ต ป่าตองก็เปิดเป็นลำดับถัดมาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พร้อมกับมีโคโคเทล กระบี่ โอเอซิสซึ่งพร้อมให้บริการอีกเป็นที่ถัดไปในเดือนธันวาคมนี้
คุณสุพจน์ กุลาตี เจ้าของโคโคเทล กระบี่ อ่าวนาง และโคโคเทล ภูเก็ต ป่าตอง และ คุณสุเทพ ศรีกุเรชา เจ้าของโคโคเทลกระบี่ โอเอซิสต่างให้ความเห็นตรงกันว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นในหลักการปฏิบัติของโคโคเทล และพร้อมที่จะเข้าร่วมกิจการด้วย แนวคิดทีมศูนย์กลางเป็นฝ่ายจัดการนี้น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้ทำงานอยู่ที่ส่วนกลางและเจ้าของกิจการได้ดำเนินกิจการโดยไม่ต้องมีกำลังคนลงพื้นที่ ในตามปกติแล้วเจ้าของโรงแรมขนาดเล็กจะมีตัวเลือกอยู่เพียงสองทางคือ บริหารโรงแรมอย่างไม่เป็นมืออาชีพโดยไม่มีผู้ชำนาญการ หรือบริหารโรงแรมอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็แลกกับการรายจ่ายเงินเดือนอันสูงลิ่ว แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับโคโคเทล "ทีมงานรู้ดีว่ากลุ่มลูกค้าต้องการอะไร และก็สามารถตอบโจทย์นั้นๆได้ โคโคเทลได้ฉีกแนวตัวเองออกไปจากกลุ่มคู่แข่งอื่นๆในย่านนั้นด้วยการนำเสนอห้องพักแบบ 3 หรือ 4 เตียง แขกที่มาพักต่างพึงพอใจกับแนวคิด วิธีการให้บริการ และก็มีความสุขทุกครั้งที่มาพักกับเรา โดยรวมแล้วเราพูดได้เลยว่า เมื่อแขกมีความสุข เราก็มีความสุขด้วยเช่นกัน โคโคเทลทำให้เราอยู่ในจุดนี้ได้ เรารักในแนวคิดของโคโคเทล และรักที่จะทำงานร่วมกันกับทีมของเขาด้วยเช่นกัน" คุณสุพจน์กล่าว
ในปี 2018 โคโคเทลมีแผนที่จะเปิดโรงแรมอีก 9 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งได้ตั้งมั่นที่จะให้ลูกค้าประทับใจด้วยการมอบประสบการณ์ที่อบอุ่น ไม่เหมือนใคร สะอาด ปลอดภัยและเป็นศูนย์กลางที่คุ้มค่าคุ้มราคา โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายขั้นตอนที่ถูกจัดทำเพื่อยืนยันความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวผู้หญิง และให้ลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย สามารถเดินทางมาพักที่โรงแรมได้อย่างสบายใจ
โมเดลธุรกิจของโคโคเทลนั้นจะมอบวิธีแก้ปัญหาต่างๆให้แก่เจ้าของโรงแรมโดยรับบริหารโรงแรมในนามของเจ้าของ ซึ่งรวมถึงสัญญาการจัดการที่เรียกว่า Centralized and Property Operation Contract (CPOC) ซึ่งให้เจ้าของได้รับผลตอบแทนสูงในขณะที่การปล่อยสัญญานี้จะทำให้มีเงินสดหมุนเวียนเวียนสม่ำเสมอ ถ้าเป็นสมัยก่อนนั้นการที่เจ้าของอสังหาจะสามารถพัฒนาแนวคิด สร้างและดูแลทรัพย์สินให้กลายเป็นธุรกิจบริการโรงแรมนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก นี่เองถึงเป็นจุดที่ความสามารถด้านการจัดการโรงแรมของโคโคเทลสามารถเข้าช่วยเหลือได้ โดยพวกเขาสามารถที่จะจัดการโรงแรมได้เป็นอย่างดี ทำให้โรงแรมมีรายได้สม่ำเสมอ และ สามารถจัดการด้านการปรับปรุงโรงแรมให้คุ้มค่ามากที่สุด
คุณวรเทพ ศรีคุรุวาฬ เจ้าของโคโคเทล กรุงเทพ สุรวงศ์ (เปิดให้บริการมาตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2016) ได้แชร์ความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า "ผมยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับทีมของโคโคเทล ด้วยความเขี่ยวชาญด้านการจัดการโรงแรม ผมสามารถมั่นใจได้ว่าการจัดการบริหารทรัพย์สินของผมได้อยู่ในมือของผู้มีประสบการณ์ และทำให้ผมได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน ทีมงานนั้นเชื่อถือได้และไว้ใจได้ โคโคเทลยึดมั่นในการรักษาผลประโยชน์ของโรงแรม การร่วมงานกับโคโคเทลนั้นทำให้ผมได้เรียนรู้และพัฒนาในหลายด้านอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคลด้วย" ขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมด้วยตัวเลขอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 80-85% ของห้องทั้งหมดตลอดทั้งปี และโคโคเทล สุรวงศ์ได้เรตติ้ง 8.5 ทั้งบน Agoda และ Booking.com สำหรับโคโคเทล กระบี่ อ่าวนางนั้นได้รับไปที่ 8.9 ทั้งบน Agoda และ Booking.com32(เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละตลาดตามลำดับ) สำหรับโคโคเทล ภูเก็ต ป่าตองที่เพิ่งเปิดไปล่าสุดนั้นได้รับคะแนนไปถึง 9.3 บน Agoda
REAPRA บริษัทที่ก่อตั้งโดยคุณชูเห่ย โมโระฟูจิ และคุณทาเคโอะ มัตสึดะ ได้มุ่งไปยังธุรกิจต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะสามารถพัฒนาเป็นผู้นำในธุรกิจนั้นๆได้ REAPRA ได้ลงทุนไปกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐใน Newlegacy Hospitality และ Kokotel คุณเร มัตสึดะ ซีอีโอได้ปลุกปั้นโคโคเทลให้เป็นผู้นำด้านการบริการโรงแรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้บริหารโรงแรมด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่ โดยตั้งเป้าที่จะบริหาร 80 โรงแรมในปี 2021 และ1,000 โรงแรมในปี 2026 และสร้าง "ตำนานสำหรับศตวรรษที่ 22".
คุณเร มัตสึดะเชื่อว่าโคโคเทลตั้งอยู่ในจุดท่องเที่ยวแนวรีสอร์ทอย่างกระบี่และภูเก็ตนั้นล้วนมีวิสัยทัศน์และความเชื่อเดียวกันที่จะมอบความประทับใจให้กับผู้เกี่ยวข้อง ถือประโยชน์ทุกฝ่าย โคโคเทลได้รูปแบบมาจากเรียวกังแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง กำหนดความเป็นโรงแรมนั้นๆ ทั้งในตัวหน้าบ้านและหลังบ้าน คติพจน์ของโรงแรมที่ว่า "เพื่อนและครอบครัว ต้อนรับ เพื่อนและครอบครัว" นั้นก็แปลได้ว่าพื้นที่นั้นจะอบอุ่น สบาย สะดวกและต้อนรับเด็กๆ ด้วยรูปแบบการจัดห้องที่แตกต่างและยืดหยุ่น ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งเดียวในแบรนด์โรงแรมที่มีแนวคิด "ห้องสำหรับสี่คน" ซึ่งหมายถึงการที่มี 4 เตียงในหนึ่งห้อง แต่ในราคาสำหรับ 2 เตียงเพียงเท่านั้น