ปลัดฯ พงษ์ภาณุ เปิดเผยว่าจากการที่สถานการณ์โลกในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นมากในเรื่องสันติภาพภายหลังการประชุมเจรจาของผู้นำสองประเทศคือ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและนายคิม จอง อึน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ส่งผลให้บรรยากาศความเชื่อมั่นเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ประกอบกับการเดินทางเชื่อมความสัมพันธ์กับมิตรประเทศของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าทุกประเทศล้วนให้ความสนใจประเทศไทย มองเห็นโอกาสและความร่วมมือกับไทยโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงดำเนินการตามแนวทางที่ผ่านมา คือการให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเพื่อกระจายความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ การพัฒนาสินค้า/บริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน ด้านคุณภาพแทนการแข่งขันด้านราคา, การให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนเพื่อรักษาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงได้มีมาตรการในการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยโดยจะแยกเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ และในประเทศ ทั้งนี้การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในประเทศนั้น กระทรวงฯ เน้นในการให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด เพื่อกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้สู่ชุมชน
ดังนั้น ในช่วงครึ่งหลังของปีหากสถานการณ์ปกติ และไม่มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ใกล้เคียงกัน และเชื่อได้ว่าปี 2561 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ภาคการท่องเที่ยวมีการเติบโตที่ดีทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ จึงขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคนเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก นายพงษ์ภาณุ กล่าวทิ้งท้าย