โดยในทริปนี้หนุ่มอัค ได้ลงพื้นที่ในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในเมืองรองอย่างจ.อุดรธานี-จ.หนองคาย เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แห่งรสชาติ ด้วยตำรับอาหารพื้นบ้าน เครื่องปรุง และวัตถุดิบจากริมรั้วที่ปราศจากสารเคมี และพืชพันธุ์จีเอ็มโอ ไก่บ้านย่าง ส้มตำ แกงอ่อม อาหารพื้นบ้านแสนธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา ด้วยวิธีเสิร์ฟที่ไม่ธรรมดา และ zero waste 100% เพราะมาบนภาชนะจากธรรมชาติ คือ กระบอกไม้ไผ่ กระทงใบตอง และช้อนไม้ เครื่องดื่มสมุนไพร และกาแฟที่โปรเสสจากแหล่งปลูก และโปรเสสในอ.นายูง อุดรธานี ทั้งยังล้อมวงจี่ข้าวปิ้งกล้วย และกินข้าวเว้าพื้นในหมู่บ้านชายโขง
อัค อัครัฐ กล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาที่หมู่บ้านคีรีวงกต และเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นว่าผู้คนในหมู่บ้านเขามีวิถีชีวิตกันอย่างไร ที่คีรีวงกดผมได้เห็นถึงความเรียบง่ายที่แต่งแต้มไปด้วยความสนุก ผมได้นั่งรถอีแต๊กเข้าไปที่น้ำตก และได้เห็นอาหารที่ชาวบ้านเตรียมไว้ให้ ซึ่งอาหารแต่ละจานนั้นได้สะท้อนถึงวิถีชีวิตในหมู่บ้านเอาไว้ ทำให้ผมได้รู้ว่าอาหารที่ดี คือ อาหารที่มาพร้อมบรรยากาศที่ได้ลงมือทำ ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศขณะลงมือทำ และได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ถือเป็นของขวัญจานเด็ดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความเอาใจใส่ในการปรุง สำหรับผมอาหารไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในร้านอาหารชื่อดัง แต่มันคือศิลปะที่ซ่อนอยู่ในทุกที่แม้แต่ในป่าเขา อาหารของที่นี่ไม่ได้ทานแล้วหมดไป แต่กลับเป็นสิ่งที่อยู่ในใจและในจาน เป็นภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความรักของชาวบ้าน ถึงแม้ว่าพวกเราอาจจะคุ้นชินกับอาหารจานด่วน แต่เมื่อได้ลองมาหาวัตถุดิบเองจากธรรมชาติ ทำเอง ปรุงเอง ชิมเอง ได้มาเห็นได้มาสัมผัส และได้มาพบทำให้ผมได้รู้ว่าอาหารจานเด็ด ก็มีอยู่ในทุกที่ของประเทศไทย แม้แต่ในเมืองเราที่มีรสชาติอาหารไม่เป็นรองใคร"
โดยโครงการเมืองรอง ต้องลอง ต้องรัก ต้องใส่ใจ เป็นการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ที่มาพร้อมกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ Low Carbon ณ 9 เส้นทางท่องเที่ยวเมืองรองที่จะทำให้คุณหลงรักและเที่ยวได้อย่างสุขใจโดยไม่ทิ้งภัยให้กับธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการได้ที่เว็บไซต์https://tourismthailand.org/localtravel หรือติดต่อที่ศูนย์บริการข่าวสารท่องเที่ยว ททท. ได้ที่เบอร์ 1672