เมื่อกล่าวถึงดอกโบตั๋น หลายคนคงนึกถึงยุคราชวงศ์ถังของจีน (ค.ศ. 618–907) โดยบทกวีของหลิว อวี่ซี กวีเอกในยุคราชวงศ์ถัง บรรยายไว้ว่า "ดอกโบตั๋นคือความงามแห่งจักรวรรดิที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว แม้แต่เมืองหลวงยังต้องตกตะลึงกับดอกโบตั๋นที่เบ่งบาน" นอกจากนี้ ดอกโบตั๋นยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งมวลบุปผา" เนื่องจากมีขนาดใหญ่และส่งกลิ่นหอมอบอวล
โบตั๋นมีหลายร้อยสายพันธุ์ และทุ่งโบตั๋นในเขตเตี้ยนเจียง นครฉงชิ่ง ประเทศจีน ก็มีความโดดเด่นที่สุดเพราะเติบโตตามธรรมชาติ ทั้งยังสวยงามและมีสรรพคุณทางยา ต่างจากโบตั๋นไม้ประดับที่ส่วนใหญ่ถูกเพาะพันธุ์ขึ้น
วีดีโอการเดินทางในเตี้ยนเจียง
https://www.ichongqing.info/events/dianjiang-chongqing-the-hometown-of-chinese-peony-flower/
เขตเตี้ยนเจียงมีประวัติการปลูกโบตั๋นยาวนานเกือบ 2,000 ปี เริ่มตังแต่ยุคของจักรพรรดิฮั่นอู่ (พระนามเดิม หลิว เช่อ) สมัยราชวงศ์ฮั่น ดังนั้น หลายคนจึงเรียกที่นี่ว่า "แหล่งกำเนิดของดอกโบตั๋นจีน" สภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่โดดเด่นของเตี้ยนเจียงทำให้ที่แห่งนี้เหมาะแก่การปลูกโบตั๋นมากที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปีเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกโบตั๋นในเตี้ยนเจียง และเทศกาลชมดอกโบตั๋นเขตเตี้ยนเจียงก็จัดขึ้นในช่วงเวลานี้ของทุกปี ดอกโบตั๋นกว่า 60 สายพันธุ์เบ่งบานเต็มพื้นที่ 13.3 ตารางกิโลเมตรในจุดชมวิวที่ดีที่สุดสามจุด ได้แก่ เขตท่องเที่ยวภูเขาข่ายจือ สวนโบตั๋นหัวเซีย และ Peony and Cherry Blossoms World
นอกจากทุ่งโบตั๋นอันโด่งดังแล้ว เขตท่องเที่ยวภูเขาข่ายจือยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น "Spring of Shouting" "Shaking Bridge" และ "Rainbow Slideway" เป็นต้น นอกจากนั้นยังมี "Stone-Ground Tofu" เมนูเต้าหู้พิเศษประจำท้องถิ่นที่มีขั้นตอนการทำอันเข้มงวดถึง 7 ขั้นตอน และมีการปรุงโดยใช้เครื่องปรุงมากถึง 24 ชนิด จนได้รสชาติที่โดดเด่นและเนื้อเนียนนุ่ม ทั้งนี้ ทิวทัศน์อันงดงาม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอาหารรสเลิศ ทั้งหมดล้วนทำให้เขตเตี้ยนเจียงเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือน
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20190419/2441301-1