นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย จะเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งในขณะนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว ที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในรูปแบบ New Normal ที่ทุกท่านจะได้ท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับการดูแลสุขอนามัยในเวลาเดียวกัน ดังนั้นทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจำเป็นต้องร่วมมือกันปรับตัวเพื่อให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาอย่างเข้มแข็งอีกครั้
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ททท.มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และสร้างการรับรู้เรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ทั้งในส่วนของการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว และทีพัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ และเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมาตรการด้านสุขอนามัยนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากและทุกคนสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบ New Normal ได้อย่างสะดวกสบาย จึงได้เชิญตัวแทนจากทุกภาคส่วนร่วมเดินทางในทริปนี้ ได้แก่ ตัวแทนจากบุคลากรทางการแพทย์ ตัวแทนบริษัทท่องเที่ยว ตัวแทนนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ ให้มาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด “BEST โดย B : Booking การวางแผนการเดินทางก่อน-ระหว่าง-หลังเดินทาง การจัดสรรคนร่วมเดินทาง จองทุกสิ่งล่วงหน้าภายใต้เงื่อนไขการจำกัดจำนวน และการบริหารพื้นที่แบบเว้นระยะห่าง E : Environment การอนุรักษ์และรักษาธรรมชาติที่ฟื้นตัวดีขึ้น นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม S : Safety ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับความสะอาด ปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี และ T : Technology เทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการท่องเที่ยวที่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าสำหรับนักท่องเที่ยวและทำให้บริการมีศักยภาพที่ดีขึ้น
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ช่วงเวลานี้การเดินทางและใช้จ่ายภายในประเทศสำคัญที่สุด ที่จะทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวกลับคืนมา ซึ่งแอร์เอเชียยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยแอร์เอเชียมีความพร้อมเต็มที่ที่จะให้บริการผู้โดยสารทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างสะดวกและปลอดภัย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งอีกครั้ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจท้องถิ่นในจังหวัดที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว
สำหรับแอร์เอเชียขณะนี้เราเพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางบินภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งในเดือนกรกฎาคมนี้จะให้บริการบินครบทุกปลายทางภายในประเทศแล้ว เปิดบินสูงสุดเชียงใหม่ 9 เที่ยวบินต่อวัน และเพิ่มเส้นทางบินข้ามภาค รวมทั้งยังได้ออกโปรโมชั่นตั๋วบินบุฟเฟต์ Unlimited Pass ออกมาเป็นครั้งแรก เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน
“เราพร้อมที่จะบริการผู้โดยสารให้เดินทางภายในประเทศได้อย่างสะดวกสบาย โดยปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล และนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ เพื่อลดการสัมผัสในจุดต่าง เช่น การสแกน QR code การเช็คอินออนไลน์ อีกทั้งบนเครื่องบินพนักงานต้อนรับจะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ถุงมือ หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการให้บริการ ประกอบกับการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้โดยสารแล้ว เชื่อมั่นว่าการเดินทางโดยเครื่องบินจะกลับมารองรับนักเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างดีที่สุดต่อไป” นายสันติสุข กล่าว
สำหรับเส้นทางบินภายในประเทศในเดือนกรกฎาคมนี้ แอร์เอเชียจะกลับมาให้บริการครบ 23 จุดหมายปลายทางแล้ว รวมถึงเส้นทางบินข้ามภาค เช่น เชียงใหม่ - หาดใหญ่ เชียงใหม่-พัทยา (อู่ตะเภา) หาดใหญ่-พัทยา (อู่ตะเภา) และขอนแก่น-หาดใหญ่ รวมทั้งสิ้น 25 เส้นทางบิน และมีเที่ยวบินให้บริการ 68 เที่ยวบิน(ไป-กลับ)ต่อวัน เพื่อกระตุ้นการเดินทาง ส่งเสริมภาคธุรกิจและท่องเที่ยวต่อไป