นายอรรถพล เปิดเผยว่า ปตท. ในฐานะเป็นผู้นำด้านสถานีบริการน้ำมัน ที่ได้มุ่งมั่นพัฒนาสถานีบริการ ให้เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมันภายใต้แนวคิด PTT Life Station เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ผ่านสินค้าและบริการต่างๆ อาทิ ห้องน้ำสะอาด ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก เป็นต้น และด้วยความห่วงใยผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยให้สามารถใช้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยจากข้อมูลของ United Nations World Population Ageing พบว่า หลังจากปี 2552 ประชากรที่อยู่ในวัยพึ่งพิงได้แก่ เด็กและผู้สูงอายุ จะมีจำนวนมากกว่าประชากรในวัยแรงงาน และในปี 2560 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประชากรเด็กน้อยกว่าผู้สูงอายุ ปตท. จึงได้ได้ศึกษาข้อกำหนดขั้นพื้นฐานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และปรึกษาอาจารย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อกำหนดมาตรฐานในการจัดทำสัญลักษณ์ และ ลักษณะอาคาร ที่ถูกต้องเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการการอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษ และปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เพื่อสร้างความสะดวกปลอดภัยในการเข้าถึงและใช้งานทุกๆ พื้นที่ภายในสถานีบริการ ให้กับผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ทุพพลภาพ คนชรา สตรีมีครรภ์ เด็ก หรือแม้แต่ผู้บริโภคทั่วไป โดยการปรับองค์ประกอบต่างๆ ภายในสถานีบริการ ได้แก่ ที่จอดรถผู้ทุพพลภาพ ที่จอดรถสตรีซึ่งยังไม่เคยมีในสถานีบริการน้ำมันมาก่อน อีกทั้งยังมีห้องน้ำพิเศษเพื่อการใช้งานสำหรับทุกคน ทางลาดสำหรับรถเข็นขึ้นทางเท้าและเข้าร้านค้า กล้อง CCTV ตลอดจนปุ่มกดแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งยังได้ออกแบบและจัดทำป้ายสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ตำแหน่งของจุดใช้งานต่างๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน
แนวคิด PTT Friendly Design สัญลักษณ์แห่งความห่วงใย จึงเป็นโครงการยกระดับการบริการของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ซึ่งต่อยอดจากแนวคิดหลักของ PTT Life Station ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกเภททุกวัย ด้วยการมีผลิตภัณฑ์น้ำมัน ธุรกิจเสริมที่มีความหลากหลาย และห้องน้ำสะอาด ให้ตอบสนองความต้องการและดูแลผู้บริโภค สร้างความประทับใจขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เพื่อให้สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สามารถดูแลผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ครองใจผู้บริโภค และเป็นสถานีบริการน้ำมันเพื่อความภาคภูมิใจของคนไทยอย่างแท้จริง