ไทยออยล์ได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices 2561 ต่อเนื่องเป็นปีที่6 จากการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างโดดเด่นในอุตสาหกรรมการตลาดและการกลั่นน้ำมันและก๊าซระดับสากล

ศุกร์ ๑๔ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๒:๑๖
เมื่อเร็วๆ นี้ Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI ซึ่งเป็นดัชนีประเมินความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ได้ประกาศให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นสมาชิกของ DJSI 2561 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า "ไทยออยล์มุ่งเน้นการบริหารจัดการธุรกิจด้วยสมดุล 3 ด้านคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างคุณค่าสู่สังคม และการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นเลิศ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และการตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มด้วยความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้บริษัทฯ ได้รับการประเมินให้เป็นสมาชิกของ DJSI ในปี 2561 นี้ ผลการประเมินของ DJSI ในปีนี้ เป็นเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน"

นายอธิคม กล่าวเสริม "ปี 2560 ที่ผ่านมาเป็นปีที่สำคัญของไทยออยล์ ความสำเร็จด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลให้กำไรเติบโตสูงสุดเป็นประวิติการณ์ เกิดขึ้นมาจากรากฐานที่เข้มแข็งของพนักงานไทยออยล์และระบบการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ ผ่านการจัดการความเสี่ยงที่รอบด้าน การกำกับดูแลกิจการองค์กรอย่างโปร่งใส เป็นธรรม อย่างมืออาชีพ และสามารถตรวจสอบได้ มีการยกระดับวัฒนธรรมด้านบรรษัทภิบาลอย่างเป็นรูปธรรมโดยผู้บริหาร พนักงานทุกคน และขยายไปสู่คู่ค้าคู่ธุรกิจของไทยออยล์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินงานร่วมกันในระยะยาว"

"นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังมีผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยที่ดีขึ้น ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานกว่า 20 โครงการในปีที่ผ่านมา การสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดการบ่อบำบัด เป็นต้น การส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยร่วมกับผู้รับเหมาที่มาปฏิบัติงานในไทยออยล์จนทำให้มีสถิติความปลอดภัยดีที่สุดในรอบหลายปี ตลอดจนโครงการลงทุนที่สำคัญได้รับการอนุมัติและเห็นชอบจากชุมชนโดยรอบ มีกระบวนการสื่อสาร รับฟังความเห็น และจัดการเรื่องร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ดัชนีความผูกพัน (Community Engagement) ของชุมชนรอบโรงกลั่นต่อการดำเนินงานของกลุ่มไทยออยล์อยุ่ในระดับสูง รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การดูแลพนักงาน และมุ่งเน้นการเคารพในสิทธิมนุษยชน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาองค์กรสู่ความสำเร็จในระยะยาว" นายอธิคม กล่าว

"จากการได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices 2561 ต่อเนื่องเป็นปีที่6สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของไทยออยล์ต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มผ่านกรอบธรรมาภิบาลและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ได้กล่าวมาทั้งหมด" นายอธิคม กล่าวปิดท้าย

Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เป็นดัชนีจัดอันดับผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก โดยมี RobecoSAM Corporate Sustainability Assessment ผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เป็นผู้ประเมินจัดอันดับ โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า บริษัทที่จะเข้ารับการประเมินได้จะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียน และมี Free Float Market Capitalization ใน Dow Jones Total Stock Market Index สูงสุด 2500 บริษัทแรก และกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่ม Emerging Markets สูงสุด 800 บริษัทแรก ตลอดจนกลุ่มอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 3,538 บริษัททั่วโลก

ทั้งนี้ RobecoSAM จะส่งแบบสอบถามตามประเภทอุตสาหกรรมมาให้บริษัทที่ได้รับเชิญ เพื่อตอบคำถามเชิงลึก พร้อมจัดส่งหลักฐานอ้างอิงและช่องทางการเปิดเผยสู่สาธารณะ เกี่ยวกับแผนงานและกลยุทธ์ วิธีการบริหารจัดการ เป้าหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนผลการปฏิบัติงาน ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยไทยออยล์ได้รับเชิญเป็น 1 ใน 790 บริษัทในกลุ่ม Emerging Markets เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 และได้ตอบแบบสอบถามไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561

ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บน้ำมันดิบ น้ำมันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๓๘ PRM พบนักวิเคราะห์ อัพเดทแผนธุรกิจปี 67
๑๔:๕๙ ชาบูตง จับมือ ทไวนิงส์ ชวนรังสรรเมนูสุดว้าว ยกระดับความพรีเมียมของราเมน เลมอน แบล็กที ชิโอะ ทงคตสึ สูตรพิเศษที่ชาบูตง ราเมน
๐๒ เม.ย. S-Pure เปิดตัวไส้กรอกเยอรมันสไตล์โฮมเมด S-Pure Prime สร้างโมเมนต์ ที่สุดความอร่อย ชูแบรนด์แรก Clean Label ผลิตจากเนื้อหมูเอสเพียว 100%
๑๓:๒๐ สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567
๑๓:๑๘ DDD เปิดแผนธุรกิจปี 67 รุกผลิตภัณฑ์ใหม่-กลุ่มไลฟ์สไตล์ ปั้นผลประกอบการโตแกร่งต่อเนื่อง
๑๓:๑๗ โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2567 ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.09 บาท พร้อมเปิดแผนธุรกิจ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20-30% ในปี
๑๓:๔๔ ปวดหลัง ร้าวลงขา ชา อ่อนแรง?. ระวัง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
๑๒:๑๗ เนรมิตบทเพลงหัวใจ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ความรักท่ามความโรแมนติกสุดคลาสสิค กับแพ็คเกจ Symphony of Hearts ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ
๑๒:๒๗ เซ็นทรัล รีเทล X มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ร่วมส่งต่อโอกาสและชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ ผ่านแคมเปญ Hi! ใจ
๑๒:๓๗ ถิรไทย ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พร้อมจ่ายปันผล 0.21 บาทต่อหุ้น