ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- ผู้ค้าน้ำมันกังวลว่าอุปทานน้ำมันในตลาดอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ หลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบอิหร่านวันที่ 4 พ.ย.61 ทั้งนี้ในการประชุม Energy Forum ณ กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย อิหร่านประเมินว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซียมีปริมาณการผลิตส่วนเกิน (spare capacity) รวมกันราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับชดเชยอุปทานของอิหร่านที่จะลดลงจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย นาย Khallid al-Falih กล่าวว่ากลุ่ม OPEC สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ ที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- Reuters รายงานอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่าน เดือน ก.ย. 61 เพิ่มขึ้น 111,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 502,000 บาร์เรลต่อวัน ก่อนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจะเริ่มต้นวันที่ 4 พ.ย. 61 และจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน เพิ่มขึ้น 29,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 620,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้จีนลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เนื่องจากสงครามการค้า
- ปริมาณส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลามีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่อง ล่าสุด Reuters รายงานการซ่อมแซมท่าส่งออกน้ำมัน Jose ของเวเนซุเอลา ซึ่งถูกเรือขนส่งน้ำมันชนได้รับความเสียหายในช่วงปลายเดือน ส.ค. 61 ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกจากท่า Jose ในเดือน ก.ย. 61 อยู่ที่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อน 14% และยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามกำหนดเดิมที่บริษัท PDVSA คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือน ก.ย. 61 (ทั้งนี้ท่าดังกล่าวส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 70% ของปริมาณส่งออกทั้งประเทศ)
- กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงโควตานำเข้าน้ำมันดิบ ปี 2562 สำหรับโรงกลั่นเอกชน อยู่ที่ 4.04 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 42 % ทั้งนี้ให้โรงกลั่นเอกชนยื่นความจำนงภายในวันที่ 10 พ.ย. 61
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ย. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 8.0 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 404.0 ล้านบาร์เรล โดยเฉพาะปริมาณสำรองที่คลัง Cushing รัฐ Oklahoma ที่เป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบ NYMEX WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนถึง 1.7 ล้านบาร์เรล
- EIA รายงานการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. 61 อยู่ที่ระดับสูงสุดรายเดือนเป็นประวัติการณ์ที่ปริมาณ 10.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 269,000 บาร์เรลต่อวัน
- บริษัท Plains All American เริ่มดำเนินการระบบท่อขนส่งน้ำมันดิบ Sunrise Pipeline (กำลังสูบถ่าย 500,000 บาร์เรลต่อวัน) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองท่อที่ก่อสร้างใหม่เพื่อสูบถ่ายน้ำมันดิบจากแหล่ง Permian ในมลรัฐ Texas ซึ่งเป็นแหล่งผลิต Shale Oil สำคัญของสหรัฐฯ ไปยังคลังน้ำมัน Cushing ที่รัฐ Oklahoma โดยจะสามารถดำเนินการเต็มกำลังในช่วงต้นเดือน พ.ย. 61 เร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ในช่วงไตรมาสที่ 1/62 ท่อดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในบริเวณ Permian เนื่องจากระบบขนส่งไม่เพียงพอรองรับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น (ปริมาณการผลิต Shale Oil จากแหล่ง Permian ในเดือน ต.ค. 61 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันศุกร์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยทางเทคนิคถือเป็นการพักฐานหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดเริ่มคลายความกังวลหลังมีข่าวโรงกลั่นในอินเดียยังคงมีแผนนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านในเดือน พ.ย. 61 แม้เป็นช่วงที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้แล้ว แต่เป็นการนำเข้าที่ลดลงจากเดือน ต.ค. 61 ที่ระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับที่รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาผ่อนปรนให้ประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านในปริมาณที่ลดลงสามารถนำเข้าต่อไปได้อีกระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนั้นสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า มกุฎราชกุมาร Mohammed Bin Salman (MBS) ของซาอุดีอาระเบีย เผยว่าซาอุฯ กำลังทำตามคำมั่นสัญญาต่อลูกค้าว่าจะจัดจำหน่ายน้ำมันดิบให้เพียงพอตามที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงเพื่อชดเชยอุปทานจากอิหร่านที่ลดลง ขณะที่ปัจจุบันปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ ซาอุฯ อยู่ที่ระดับ 10.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีความสามารถในการเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 1.30 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากตลาดต้องการ และหากมีการลงทุนเพิ่มเติมในการสำรวจและขุดเจาะจะสามารถผลักดันให้ปริมาณการผลิตยืนเหนือระดับ 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้ง MBS ยังคงย้ำถึงแผนการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชน (Initial Public Offering – IPO) ของบริษัทน้ำมันแห่งชาติ Saudi Aramco ว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2563 หรือต้นปี พ.ศ. 2564 จำนวน 5% ของมูลค่าบริษัท หรือราว 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากมูลค่าบริษัทที่คาดว่าอยู่ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดับข่าวลือว่าแผน IPO ถูกกษัตริย์ Salman สั่งยกเลิก ให้จับตามองระบบท่อขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป Trans Mountain (ปริมาณสูบถ่าย 300,000 บาร์เรลต่อวัน) ในแคนาดา ที่หยุดดำเนินการเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 61 หลังอาจพบเหตุรั่วไหลในบริเวณเมือง Surrey รัฐ British Columbia ประเทศแคนาดา ท่อดังกล่าวใช้ขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจากรัฐ Alberta มายังท่าส่งออกในรัฐ British Columbia รวมถึงให้จับตามองพายุหมุนเขตร้อน Michael ที่พัดเข้าประเทศคิวบาด้วยความเร็วลม 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มก่อตัวเป็นเฮอริเคน รวมถึงมีโอกาสมุ่งหน้าเข้า Gulf of Mexico ของสหรัฐฯ ที่เป็นศูนย์กลางในการผลิตน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และเป็นที่ตั้งของโรงกลั่น (กำลังกลั่นราว 45% ของสหรัฐฯ) สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 82.0-86.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 73.0-77.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 80.5-84.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากแรงซื้อของบริษัท Vitol และ บริษัท Petrolimex ประกอบกับ บริษัท Cosmo Oil Co. ของญี่ปุ่น ปิดซ่อมบำรุง No. 1 CDU (กำลังการผลิต 75,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่โรงกลั่นน้ำมัน Chiba (กำลังการผลิต 177,000 บาร์เรลต่อวัน) ตามแผน เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 61 ขณะที่ผู้ค้าคาดว่า Indian Oil Corp. (IOC) ของอินเดียจะหยุดดำเนินการโรงกลั่น Gujarat (กำลังการกลั่น 275,000 บาร์เรลต่อวัน) เพื่อซ่อมบำรุงตามแผน ในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ย. 61 เป็นเวลา 1 เดือน ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรอง น้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ย. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 500,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 235.2 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 550,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 11.29 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน อย่างไรก็ตาม Reuters รายงาน โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท Citgo ที่ Corpus Christi (กำลังการกลั่น 165,000 บาร์เรลต่อวัน) ในสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการหน่วย Alkylation (กำลังการกลั่น 18,100 บาร์เรลต่อวัน) เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 61 หลังหยุดดำเนินการฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 อีกทั้ง Petroleum Association of Japan ( PAJ) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่ญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ย. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 140,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.21 ล้านบาร์เรล ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 91.5-95.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการน้ำมันดีเซลในเอเชียเหนือยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปทานยังมีอยู่จำกัด และผู้ค้าคาดว่าจะยังคงตึงตัวไปตลอดช่วงไตรมาส 4/61 เนื่องจากอุปสงค์เพื่อการประมงในจีนเพิ่มขึ้น อีกทั้งภูมิภาคตะวันตกจะเริ่มเก็บปริมาณสำรองเพื่อเตรียมใช้สำหรับฤดูหนาว และนาย Sayed Mohammad Mozammel Hague, Director for Operations and Planning บริษัท Bangladesh Petroleum Corporation (BPC) ของบังกลาเทศคาดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดีเซล 0.05 %S ในปี พ.ศ. 2561 อยู่ที่ 33.8 ล้านบาร์เรลเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.5 % จากแผนเดิม และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 29 % เนื่องจากจะเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าใหม่ ที่ใช้ น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 5 แห่ง กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 800 เมกะวัตต์ ประกอบกับ Petroleum Planning and Analysis Cell (PPAC) ของอินเดีย รายงานความต้องใช้น้ำมันดีเซลในเดือน ส.ค. 61 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.2% มาอยู่ที่ 1.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน (8 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.8% มาอยู่ 1.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และนักวิเคราะห์คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2562 เนื่องจากมีการเลือกตั้งซึ่งโดยทั่วไปความต้องการใช้จะเพิ่มขึ้น ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ย. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 136.1 ล้านบาร์เรลต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม บริษัท Fuji Oil ของญี่ปุ่น เริ่มดำเนินการหน่วย CDU (กำลังการกลั่น 143,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่โรงกลั่น Sodegaura (กำลังการกลั่น 143,000 บาร์เรลต่อวัน) หลังหยุดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 61 จากพายุไต้ฝุ่น Trami ด้านปริมาณสำรอง PAJ รายงานปริมาณสำรอง น้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่ญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ย. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 340,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.11 ล้านบาร์เรล และ IES รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 620,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.74 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 97.5-101.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล