โครงการนี้ลงทุนโดย Halpro Engineering ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง EPC Greencells Group จากเยอรมนี และพาร์ทเนอร์อย่าง Majulia โดยเป็นโครงการภายใต้โปรแกรม Large-Scale Solar (LSS) รอบสองของมาเลเซีย ทั้งนี้ โมดูลกระจกสองชั้นสองหน้าผสานเทคโนโลยีเซลล์สองหน้าประสิทธิภาพสูงกับโครงสร้างกระจกสองชั้นอันแข็งแรงทนทาน โดยด้านหลังของโมดูลสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 70% ของด้านหน้า จึงสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ค่าความเข้มรังสีต่ำ และประสิทธิภาพในการต้านทานการเสื่อมสภาพ (PID) ภายใต้สภาพแวดล้อมอันเลวร้าย (เช่น ทะเลทราย ชายทะเล ฯลฯ) และสภาพอากาศสุดโหด (เช่น อุณหภูมิสูง ความชื้นสูง ฯลฯ) โครงการนี้นำโมดูลประสิทธิภาพสูงดังกล่าวมาใช้งานร่วมกับระบบติดตามดวงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยให้ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นและได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น
จิน เป๋าฟาง ประธานคณะกรรมการบริษัทและซีอีโอของ JA Solar กล่าวว่า “การสร้างฐานการผลิตในมาเลเซียเมื่อปี 2558 และจัดหาโมดูลให้โครงการขนาดใหญ่หลายโครงการในประเทศ ทำให้ JA Solar มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นในการส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) และเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้า ในอนาคต JA Solar จะเดินหน้าส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อผลักดันการพัฒนาตลาดเซลล์แสงอาทิตย์ในมาเลเซียและประเทศอื่น ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป”