นายธีธัช จึงกานต์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จาร์ตัน กรุ๊ป จำกัด (JARTON) และเป็นศิษย์เก่าExecutive MBA สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตอุปกรณ์และติดตั้งระบบประตูหน้าต่างครบวงจรนวัตกรรมใหม่เพื่อที่อยู่อาศัยและอาคาร ทั้งที่ผลิตจากโรงงานเราเองและนำเข้านวัตกรรมจากต่างประเทศ เช่น สินค้าแบรนด์ SCHLAGE SENSE กุญแจดิจิตอลที่ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านโทรศัพท์ iPhone จากที่ใดก็ได้บนโลก นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ SCHLAGE SEL300 กุญแจดิจิตอลรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่สามารถใช้กับการ์ดรุ่นใหม่ได้ครบทุกประเภท เช่น บัตร Visa payWave บัตร Rabbit บัตรรถไฟฟ้าใต้ดิน บัตร 7-11 บัตร MIFARE ทั่วไป รวมทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับระบบล็อคประตูที่มีนวัตกรรมใหม่จากประเทศอิตาลี ได้แก่ ระบบตลับกุญแจแม่เหล็ก ที่ทำให้การเปิดปิดประตู ไม่มีเสียงดังรบกวนผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้สินค้าแต่ละประเภทยังมีจุดเด่นที่หลากหลายสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย เช่น ระบบล็อคประตูโดยใช้รหัสส่วนตัว การใช้การ์ดหรือลายนิ้วมือร่วมกับรหัส หรือใช้รหัสอย่างเดียวรวมทั้งการใช้กุญแจรีโมทคอนโทรลและการล็อคผ่านการใช้ Bluetooth ที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
นอกจากอุปกรณ์และระบบล็อคบานประตูแล้ว JARTON ยังเปิดบริการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ วางระบบ และติดตั้งอุปกรณ์ครบวงจร โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญระบบควบคุมการเข้าออกอัตโนมัติ (Access Control System) อาทิเช่น ไม้กั้นที่จอดรถ เครื่องอ่านการ์ด อุปกรณ์ล็อคอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งการก่อสร้างอาคารของภาครัฐที่ต้องการความทันสมัยและความปลอดภัยมากขึ้น
นายธีธัช เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในงานสถาปนิก'60 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวสินค้านวัตกรรมที่เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการสำหรับการใช้ในห้องน้ำและห้องทั่วไปรวมทั้งสินค้าประเภทโช๊คอัพฝังพื้น แบบไม่ต้องสกัดพื้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นที่ทำจากสเตนเลสแท้ นอกจากนี้ยังนำเสนอบริการออกแบบติดตั้งอลูมิเนียมและผนังอาคารครบวงจร โดยเลือกใช้อุปกรณ์อลูมิเนียมที่ผสานเทคโนโลยีมาตรฐานอุตสาหกรรมจากประเทศเกาหลีจึงมั่นใจได้ว่าความทันสมัยของนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภค รวมทั้งกลุ่มสถาปนิก นักออกแบบ เจ้าของโครงการ และผู้รับเหมาได้เป็นอย่างดี มียอดสั่งซื้อและยอดจองสินค้าเป็นจำนวนมาก ภายในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายสินค้านวัตกรรมใหม่ของบริษัทฯ จะเติบโตถึง 20 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว
นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ซี่งจะเป็นกลไกทางการตลาดในอนาคต ที่นวัตกรรมและสินค้าสำหรับผู้สูงวัยจะมีการพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆและเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น ตามจำนวนประชากรผู้สูงวัยของไทย ทางบริษัท จาร์ตันเอง มีเป้าหมายว่าจะพัฒนาสินค้าต่อไปเพื่อตอบรับการใช้งานของผู้สูงวัยในการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและสะดวกสบายเพิ่มขึ้นของผู้สูงวัยยุคใหม่นี้