ด้วยเหตุนี้ จึงได้จุดประกายให้ LPN จัดตั้งบริษัทเพื่อสังคมในนามบริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด (LPC) ตามนโยบาย "Social Enterprise" ซึ่งนับว่าเป็นมิติใหม่ในการจ้างงานด้านบริการทำความสะอาดที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและเปิดโอกาสให้กับกลุ่มสตรีด้อยโอกาสในสังคมไทยเป็นหลัก การบริหารดำเนินการในรูปแบบที่ LPN ลงทุนโดยไม่ปันผลกลับมาที่ตนเอง แต่จะปันผลกำไรกลับคืนสู่พนักงาน LPC ในรูปแบบค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ ที่มากกว่าบริษัททั่วไป หนึ่งในนั้น คือ เงินเดือนที่สูงกว่ามาตรฐานค่าแรงขั้นต่ำถึง 10% โดยจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้เกิดจากปัญหาการจัดจ้างแม่บ้านลงพื้นที่คอนโดมิเนียม ซึ่งในตอนแรกจำเป็นต้องอาศัยรูปแบบบริษัททำความสะอาดต่างๆ แต่พบว่ามีกติกาที่ไม่เป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาทำงานไม่สามารถรับงานต่อเนื่องในระยะยาวได้ จึงเป็นแนวคิดในการก่อตั้ง LPC เมื่อปี 2554
รูปแบบการว่าจ้างของ LPC ยังแตกต่างออกไป โดยในตลาดบริการทำความสะอาดทั่วไปจะคิดค่าจ้างเป็นรายคน แต่ LPC เปลี่ยนวิธีรับงานเป็นระบบเหมา บริหารจัดการคนให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการทำความสะอาดแต่ละครั้ง ทำให้สามารถลดจำนวนคนลง และเพิ่มรายได้ให้กับพนักงานในการว่าจ้างครั้งนั้นๆ ได้ นอกเหนือไปจากการสร้างงาน สร้างอาชีพเพื่อให้พนักงาน LPC มีรายได้และเลี้ยงดูครอบครัวได้แล้ว ยังมุ่งเน้นให้การศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการจัดให้มีระบบ"การศึกษานอกโรงเรียน" จัดครูสอนหนังสือด้านการอ่านและการเขียนให้กับพนักงานที่ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ อีกส่วนหนึ่งคือการมอบอาชีพเสริม เช่น การนวดแผนไทย ด้วยการส่งพนักงานไปเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ เป็นการติดอาวุธให้ ด้วยหวังว่าแม้ออกจากงานไป พวกเขาจะมีวิชาความรู้ติดตัวและนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ในอนาคต
และจากการที่ LPC ได้สร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานกลุ่มนี้ เมื่อมีโอกาสและว่างจากงานประจำ พวกเขาจึงได้รวมตัวกันทำความดีตอบแทนสังคม ด้วยการทำความสะอาดบริเวณรอบๆ โครงการที่ทำงานอยู่ เช่น ป้ายรถเมล์ สะพานลอย วัด เพื่อสร้างทัศนียภาพให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน LPC มีพนักงานรวม 1,200 คน เป้าหมายต่อไปของบริษัท คือ การดำเนินการให้ได้มาตรฐานการบริการสากล ISO 9001:2015 เพื่อขยายงานบริการออกไปสู่ภายนอกมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นหนทางหนึ่งที่สร้างโอกาส สร้างศักดิ์ศรี และสร้างความสุข ให้กับสตรีเหล่านี้อย่างยั่งยืนต่อไป