i-Store Self Storage ผู้นำบริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สินระดับพรีเมียมของประเทศไทย เดินหน้าบุกตลาด Self Storage ตั้งเป้าเปิดสาขาให้บริการ 3 แห่งภายในปีหน้า

ศุกร์ ๑๔ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๓:๑๘
i-Store Self Storage ผู้นำบริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สินระดับพรีเมียมของประเทศไทย เดินหน้าบุกตลาด Self Storage ตั้งเป้าเปิดสาขาให้บริการ 3 แห่งภายในปีหน้า เน้นย่านใจกลางเมือง รายได้ 50 ล้านบาท คว้าส่วนแบ่งตลาด 30% ล่าสุดร่วมมือแสนสิริ ให้บริการเช่าพื้นที่เก็บของแก่ลูกบ้าน พร้อมเตรียมขายแฟรนไชส์ เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม คาดชัดเจนเดือนตุลาคมนี้ เล็งระดมทุนผ่าน LiVE platform ภายในปีนี้

นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด ผู้นำการให้บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน (Self-Storage) ระดับพรีเมียมของประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจ Self-Storage ในประเทศไทย เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ตามไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ ที่นิยมอาศัยอยู่ในย่านกลางเมือง พร้อมกับผู้ประกอบการด้านการค้าออนไลน์ และกิจการรูปแบบอื่นๆ ที่มีความต้องการใช้บริการเช่าพื้นที่เก็บของหรือสต็อกสินค้า

สำหรับภาพรวมตลาด Self-Storage ปี 61 บริษัทประเมินว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรพย์ ขณะที่ปัจจุบันตลาดพื้นที่เช่าเก็บของในไทยมีพื้นที่รวมอยู่ที่ประมาณ 15,000 ตร.ม. และคาดว่ามูลค่าตลาดพื้นที่เช่าเก็บของในไทยอีก 5 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 ตร.ม. ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่ให้บริการอยู่ที่ประมาณ 2,500 ตร.ม. โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ระดับ 30%

ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการตลาดแนะนำบริการ "i-Store" กับกลุ่มลูกค้าที่มีบ้าน คอนโดมิเนียม และกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ อีกทั้งได้มีการเปิดสาขาให้บริการแล้ว 2 แห่งที่สีลม และสุขุมวิท 24 ซึ่งในช่วงต่อจากนี้บริษัทจะขยายงานในส่วนต่างๆ ทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายปีหน้าเปิดสาขาให้บริการ i-Store ทั่วกรุงเทพฯ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) อีกจำนวน 3 แห่ง และมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท

สำหรับแนวทางการตลาดในปีนี้บริษัทจะเน้นการสื่อสารให้แบรนด์ i-Store เป็นที่เชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความคุ้มค่าของการเลือกใช้บริการเช่าพื้นที่เก็บของที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยสูง ตามสโลแกน "ของที่คุณรักต้องฝากกับเพื่อนที่รู้ใจ" โดยบริการของบริษัทมีทั้งหมด 4 บริการ ประกอบด้วย บริการห้องเก็บของส่วนบุคคล, บริการห้องเก็บของสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ, บริการห้องเก็บไวน์ และบริการ BOX STORAGE โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 0.5 ตร.ม. จนถึง 18 ตร.ม. และมีระดับราคาของทั้ง 4 บริการอยู่ระหว่าง 900-20,000 บาทต่อเดือน

"i-Store ทำตลาดโดยเน้นฐานลูกค้ากลุ่มที่อาศัยในคอนโดในเมือง กลุ่มผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ออฟฟิศสำนักงานต่างๆ ซึ่งการเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้เป้าหมายไม่ใช่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงยอดขายในตลาด แต่ต้องการเป็นตัวช่วยให้คนเมืองได้มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่พักอาศัยมากขึ้น ด้วยการเดินทางที่สะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ มีสภาพแวดล้อมของสถานที่มีระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบป้องกันเพลิงไหม้ มีคีย์การ์ด เข้า-ออกอาคาร และใช้สแกนขึ้นลิฟต์ไปในชั้นของตัวเองได้เท่านั้น พร้อมควบคุมระบบแสงไฟ พัดลมระบายอากาศและเซ็นเซอร์ระบบไฟส่องสว่าง ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาเอาของได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทุกวัน เพียงแค่มีคีย์การ์ดเพียงใบเดียว"นายภักดี กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายฐานผู้ใช้บริการโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดย i-Store ได้ร่วมมือกับ บมจ.แสนสิริ ในการยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตเพื่อลูกบ้านแสนสิริ โดยสามารถเลือกใช้บริการของ i-Store ผ่าน Application HOME SERVICE 2.0 บน ฟีเจอร์ SANSIRI MOVE-IN EXPERIENCE ในกลุ่ม MOVING บริการให้เช่าห้องเก็บของ (Self-Storage) และ กลุ่ม EASY LIVING บริการให้เช่าห้องเก็บไวน์ (Wine Storage) พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษที่เหนือกว่าให้กับลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ คาดว่าแคมเปญนี้จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกบ้านของแสนสิริ ที่ i-Store จะเป็นตัวช่วยให้ลูกบ้านมีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น

นายภักดี กล่าวต่อไปว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดรูปแบบและรายละเอียดในการลงทุน คาดว่าจะเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ได้ภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เริ่มให้ข้อมูลกับผู้สนใจแล้วหลายราย โดยกลุ่มผู้สนใจมีทั้งที่มีความคุ้นเคยในธุรกิจพื้นที่เช่าอาคารสำนักงาน รวมถึงมีแหล่งเงินทุนพร้อมอยู่แล้ว และกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่มีประสบการณ์ แต่มี Asset และต้องการร่วมธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์

อีกทั้งบริษัทวางแผนเตรียมจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่าน LiVE platform ในการระดมทุนในรูปแบบคราวด์ฟันดิ้งและการซื้อขายหลักทรัพย์ในรูปแบบเจรจาต่อรอง (Over The Counter: OTC) ซึ่งเป็นการซื้อขายที่เรียกว่าระบบนอกตลาด โดยเป็นการตกลงกันเองระหว่างผู้ลงทุนโดยชำระราคา และส่งมอบกันนอกระบบตลาด ทั้งนี้คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในภายในปีนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้