“ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน” มีการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้อยู่อาศัยจริง (Real Demand) เพราะมีจำนวนยูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัวสูง นอกจากนี้ ยังตอกย้ำแบรนด์พร้อมพัฒนาคุณค่าผลิตภัณฑ์ (Product Value) ด้วยการออกแบบทั้งภายในและภายนอกที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตั้งแต่ New Architectural Design, New LPN Design พื้นที่ส่วนกลาง Co - Living Zone ห้องอเนกประสงค์ เพื่อพบปะสังสรรค์ Co-Living Area ลานกิจกรรมเพื่อการพักผ่อน สอดรับชีวิตคนเมืองที่รักการออกกำลังกายด้วยสวนอินฟินนิตี้ ชั้น 32 พร้อมจุดชมวิว Sky Lounge และสวนดาดฟ้า Roof Garden ชั้น 35 ซึ่งเป็นสวนผักที่ใช้งานได้จริง โดยมีการจัดสรรการใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างสูงสุด โดยเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง
ปัจจุบัน “ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน” มูลค่าโครงการทั้งหมดกว่า 2,500 ล้านบาท มีจำนวน 636 ยูนิต เป็น เนื้อที่โครงการ 3 ไร่เศษ จำนวน 1 อาคาร สูง 35 ชั้น รูปแบบห้องชุด 23.00 - 61.00 ตร.ม. สร้างเสร็จปี 2561 ขายไปแล้วกว่า 94% เหลือขายทั้งหมดประมาณ 40 ยูนิต หรือคิดเป็น 6% ถือว่าภาพรวมมีอัตราการขายอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ขณะที่ราคาที่ดินตลอดเส้นทางถนนเพชรบุรี-มักกะสัน มีการปรับราคาขึ้นเป็นอย่างมาก
“ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน” ให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นวันนี้ด้วยแคมเปญพิเศษ “ลดตาแตก” ลดสูงสุด 45% (จากราคาปกติ) รูปแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น ขนาด 61.08 ตร.ม. จากราคาปกติ 8.97 ล้านบาท ลดตาแตกราคาเริ่มต้น 4.90 ล้านบาท ฟรีเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง และเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง (ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์)
สำหรับแคมเปญ “ลดตาแตก” เริ่มตั้งแต่วันนี้จนกว่าสินค้าจะหมด โดยมีทั้งหมด 10 โครงการคุณภาพพร้อมอยู่ รวม 100 ยูนิต เริ่มที่ 1.29 - 4.90 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ร่วมกับสถาบันการเงินในการให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้อยู่อาศัย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ มีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ 2.50% และ ธนาคารกรุงไทย มีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ 2.60% โดยแคมเปญดังกล่าว เหมาะสำหรับคนอยากมีบ้านพร้อมอยู่ในราคาที่เหมาะสมบนความพอดีที่ดีกว่า ตั้งแต่การคัดสรรทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อตอบโจทย์คนกำลังมองหาบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัย ภายใต้ความมั่นใจกับการบริหารหลังการขายด้วยกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” ที่ดูแลลูกค้าตลอดการเข้าพักอาศัย เป็นความใส่ใจบวกกับการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมาถ่ายทอดเป็นคุณค่าของทั้งผลิตภัณฑ์และบริการในทุกโครงการ แม้ในสภาวะไม่ปกติ เช่น สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 บริษัทได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเจ้าของร่วมอย่างใกล้ชิดและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในโครงการได้อย่างดี เพื่อให้ทุกชีวิตของเจ้าของร่วม และผู้อยู่อาศัยกว่า 210,0000 ครอบครัวปลอดภัยจากภาวะดังกล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LPN Call Center 02-689-6888 หรือ www.lpn.co.th / Facebook : Condolumpini ขอบคุณที่ท่านกรุณาเผยแพร่ข่าวชิ้นนี้ ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร.02-285-5011-6 ต่อ 369 คุณขนิษฐา ธนะสมบัติ