พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ประธานศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในโอกาสวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ตรงกับวันครบรอบ 100 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและ 46 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ศูนย์วิจัยทั้งสองแห่งจึงได้ร่วมมือกับ สมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน สมาคมส่งเสริมวิสาหกิจเอเชียน-จีน สมาคมมิตรภาพไทย-จีน คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ และ The Leader Asia จัดการสัมมนาเรื่อง "100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ 46 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน" ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2564 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านจีนและ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของการพัฒนาประเทศและการยกระดับคุณภาพชีวิตของจีนในรอบ 1 ศตวรรษ พร้อมทบทวนความสัมพันธ์ไทย-จีนในรอบ 46 ปี เพื่อสานต่อประโยชน์ร่วมในด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมระหว่างไทย-จีน
การสัมมนาครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จะกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ " 75 ปีพรรคการเมืองไทย ท่ามกลางพลวัตเศรษฐกิจการเมืองโลก" และนายหยาง ซิน อุปทูต รักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "100 ปีแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและแผนการพัฒนาจีนตามแนวคิดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง"
ต่อจากการปาฐกถาพิเศษจะเป็นเวทีการเสวนาหัวข้อ " 46 ปีความร่วมมือไทย-จีน กับแนวคิดประชาคมแห่งผลประโยชน์ร่วม" คณะวิทยากรประกอบด้วย นายกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ประธานศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล นายกสมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน ดำเนินรายการโดยนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน
เนื่องจากมีข้อจำกัดผู้เข้าร่วมงานสัมมนาตามประกาศกรุงเทพมหานครในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จึงเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถติดตามชมการสัมมนาผ่านการถ่ายทอดสดทางเพจเฟซบุ๊ก คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย https ://www.facebook.com/ExtensionUTCC หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ Bangkok Today และทางเว็บไซต์ www.theleaderasia.com
ที่มา: สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน