กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--กทม.
ที่โรงเรียนวัดนิมมานรดี เขตภาษีเจริญ เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.43) เวลา 09.30 น. ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานรับมอบห้องเรียนสีเขียวจากนายสุรีย์ เหมะพรรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบและบริหารงานก่อสร้าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แล้วส่งมอบให้ น.ส.ยุวดี เกิดสว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนิมมานรดี สำหรับใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังทัศนคติการประหยัดพลังงานให้แก่เยาวชนของชาติ และสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีนายนคร บุณยธนะ ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติ
นางสุรีย์ กล่าวว่า โครงการห้องเรียนสีเขียว มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังทัศนคติการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพให้แก่เยาวชนในสถานศึกษา และให้มีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจนเกิดเป็นนิสัยที่ถาวรต่อไป โครงการห้องเรียนสีเขียวมุ่งให้ความรู้เรื่องการผลิตไฟฟ้ารวมถึงการใช้อย่างมีคุณภาพ ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงกับอุปกรณ์ต่าง ๆ การที่นักเรียนได้สัมผัสและทดลองจนเห็นผลจริงด้วยตนเองเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดความตระหนักและเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างการผลิตไฟฟ้า และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้ชัดเจนขึ้น
ขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนสีเขียวแล้วจำนวน 320 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน 12 โรงเรียน สำหรับโรงเรียนวัดนิมมานรดี เป็นโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครลำดับที่ 9 ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ และในปี 2544 ได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินการอีกจำนวน 30 โรงเรียน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สื่ออุปกรณ์ในห้องเรียนสีเขียวจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน ทั้งในด้านการปลูกฝังทัศนคติการประหยัดพลังงานและการเสริมความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมในหลักสูตรหลักของโรงเรียน ขอให้คณะครู อาจารย์ได้ใช้ห้องเรียนสีเขียวให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างเต็มที่ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุน เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การสอนให้นักเรียนมาร่วมใจประหยัดพลังงานนั้น เป็นเรื่องของนามธรรมซึ่งยากที่จะให้นักเรียนเข้าใจได้ แต่ห้องเรียนสีเขียวเป็นห้องเรียนที่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ และทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง ทำให้มีความรู้ ความเข้าใจ รู้จักคิดหาเหตุผล สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ จึงคาดหวังได้ว่านักเรียนในโครงการห้องเรียนสีเขียวจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยชาติให้ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นการประหยัดพลังงานซึ่งไม่จำกัดเฉพาะพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่รวมถึงพลังงานทุกชนิด ตนคิดว่าโครงการห้องเรียนสีเขียวมิได้เป็นประโยชน์เฉพาะนักเรียนในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง และชุมชนด้วย ความร่วมมือร่วมใจและรวมพลังกันระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานครเช่นนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างยิ่ง ซึ่งต่อไปในอนาคตประเทศชาติของเราจะสามารถพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างแน่นอน--จบ--
-นศ-