แวลลูฯ เผยอีซีเอส โฮลดิ้ง ได้รับอนุมัติเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--เดอะแวลลูซิสเตมส์
บริษัท อีซีเอส โฮลดิ้งส์ (อีซีเอส) ซึ่งถือหุ้นอยู่ในบริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ ให้นำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ในตลาดหลัก (เมนบอร์ด) ได้แล้ว เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 ที่ผ่านมา
บริษัท อีซีเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท แน็ทสตีล อีเล็คทรอนิกส์ (มหาชน) จำกัด หรือเอ็นอีแอล ผู้รับเหมาผลิตอุปกรณ์ไอทีและอิเล็คทรอนิกส์อันดับ 5 ของโลก ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2541 จากการรวมตัวของบริษัทค้าส่งไอทีชั้นนำ 3 บริษัท คือ บริษัท อีซีเอส คอมพิวเตอร์ ไพรเวท จำกัด (สิงคโปร์), บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด (ประเทศไทย) และบริษัท เค.ยู.ซิสเต็มส์ จำกัด (มาเลเซีย) มีรายได้รวมในปี 2542 จำนวน 267 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 6,400 ล้านบาท และมีสินค้าไอทีที่จัดจำหน่ายรวมทั้งสิ้นกว่า 30 ยี่ห้อ อาทิ ซัน, ออราเคิล, เช็คพอยท์, ฮิวเลตต์-แพคการ์ด, ไอบีเอ็ม ฯลฯ ปัจจุบัน บริษัท อีซีเอส โฮลดิ้งส์ กลายเป็นบริษัทผู้พัฒนาและให้บริการระบบไอทีชั้นนำ โดยมีลูกค้ารายสำคัญได้แก่ สิงคโปร์ เทเลคอม, สตาร์ฮับ, เอสที เทเลมีเดีย, แปซิฟิค อินเตอร์เน็ท, ยูเนียน แบงค์ เป็นต้น
นายณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด เปิดเผยว่า การได้รับอนุมัติให้เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ของอีซีเอส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแวลลูฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน รวมทั้งขยายธุรกิจในอนาคตได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทในเครือของอีซีเอส โฮลดิ้งส์ ทั้งกลุ่มอีกด้วย
มร.เชสเตอร์ ลิน ประธานกรรมการ บริษัท อีซีเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า "ตอนที่เราได้เข้าไปถือสิทธิในอีซีเอสกรุ๊ป เป้าหมายของเราคือ เพื่อเสริมความต้องการด้านการบริหารซัพพลายเชน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วยการผลักดันของอีซีเอสไปสู่ธุรกิจบริการด้านไอทีและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้วยระบบอี-บิซิเนส นับเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อโมเดลทางธุรกิจในระดับประเทศของพวกเรา นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียได้เร่งพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตและไอที จึงเป็นที่คาดกันว่าความต้องการในการส่งเสริมสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านอี-บิสซิเนส, การรวมระบบ และบริการด้านไอทีในภูมิภาค จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับอีซีเอส เนื่องจากอีซีเอสได้ถูกวางตำแหน่งไว้เป็นอย่างดีที่จะเข้าไปเจาะโอกาสใหม่ๆ เหล่านี้"
จากรายงานของบริษัทวิจัยไอดีซีระบุว่า การซื้อขายสินค้าและบริการด้านไอทีคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จาก 119.1 พันล้านเหรียญ ในปี 2000 เป็น 282.5 พันล้านเหรียญ ในปี 2003 ซึ่งผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเป็นซัพพลายเชนของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพราะสินค้าของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เหล่านั้น จะเป็นตัวสนับสนุนเว็บเทคโนโลยีต่างๆ
อีซีเอสฯ ถือว่าโชคดีมากที่ไม่เพียงแต่มีผู้ถือหุ้นที่มีความแข็งแกร่งอย่างแน็ทสตีล อิเล็กทรอนิกส์ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือมีผู้ช่ำชองในแวดวงไอทีอย่างมร.เชย์ ยี เม็ง, นายณรงค์ อิงค์ธเนศ จากประเทศไทย และมร.ฟู เซน ชิน จากมาเลเซีย มาเป็นผู้นำในธุรกิจ ผู้บริหารเหล่านี้เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับนับถือในวงธุรกิจว่าเป็นผู้ที่มากด้วยประสบการณ์” มร.เทย์ เอ็ง โฮ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซีเอส โฮลดิ้งส์ กล่าว
“การตัดสินใจเข้าตลาดหลักทรัพย์ของอีซีเอสในครั้งนี้ เป็นการสร้างความมั่นใจในการตอบรับแนวโน้มการเติบโตของระบบไอทีในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่เพียงแต่อีซีเอสฯ จะมีโอกาสเป็นพันธมิตรกับองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการขยายตลาดใหม่ๆ ได้อีกด้วย อีซีเอสเป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถกล่าวได้ว่า มีความมั่นคงแข็งแรง มีทีมบริหารมืออาชีพ และมีผลการดำเนินงานที่ดี เราจึงมีความยินดีที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กับผู้ถือหุ้น และเรามีความมั่นใจว่า อีซีเอส โฮลดิ้ง จะเป็นบริษัทที่สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับบริษัทแม่คือ บริษัท แน็ทสตีล อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในปีพ.ศ. 2540” มร.เชสเตอร์ ลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แน็ทสตีล อิเล็กทรอนิกส์ (มหาชน) จำกัด กล่าว
หากประสงค์จะทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อคุณสุทิวา คล้ายอักษร
แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด
โทร. 308-2900, 308-2040 (60 สาย) ต่อ 1130, แฟ็กซ์ 308-3003
E-mail: [email protected] จบ--
-อน-