กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--คณะกรรมการโอลิมปิก 2008
นายอนันต์ อัศวนนท์ คณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ เป็นประธานงานเสวนาสื่อตอน "โอลิมปิก 2008 ช่วยเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ" เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 43 ที่สำนักงานคณะกรรมการอำนวยการฯ เวิลด์ เทรดเซ็นเตอร์ สรุปสาระได้ดังนี้
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสวิวัฒน์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ว่ากำลังขยายตัว แต่แปลงเป็นการฟื้นตัวแบบกระตุกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์จะส่งผลดีต่อการช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทย โดยจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงิน โดยประมาณการว่าจะมีรายรับจากการเป็นเจ้าภาพ 8 หมื่นล้านบาท จึงมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นเกือบ 1 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นผลิต ภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GPD) 0.25-3%
นอกจากนี้ในแง่จิตวิทยาจะเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเกิดการใช้จ่าย รวมถึงกระตุ้นความรู้สึกของคนไทยให้มีกำลังใจ เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนส่งผลให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกับซิดนีย์เกมส์ และผลพลอยได้ที่สำคัญคือ รายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งจะขยายผลจากกรุงเทพฯ สู่ทุกภูมิภาคของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มและยี่ห้อของสินค้าทั้งในด้านเกษตร กรรม อุตสาหกรรมพื้นบ้าน และธุรกิจบริการอื่น ๆ ทั้งนี้รัฐจะต้องกำหนดนโยบายร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ รศ.ดร.สมชาย กล่าวว่า แม้ไทยจะไม่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อความเสี่ยง ที่สำคัญคือทั่วโลกจะรู้จักประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่นายอัมรินทร์ สิมะโรจน์ หรือ "หลุยส์" นักแสดงและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ว่า การเป็นเจ้าภาพจะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัว โดยเฉพาะดัชนีของการบริการจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตามต้องเตือนตัวเองด้วยว่าสิ่งที่เหลือจากการแข่งขันจะใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าหรือไม่ ดังตัวอย่างจากสนามแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 "เราควรสู้ต่อไปเพราะถือเป็นโอกาสที่ดี จะเป็นบันไดไปสู่ความเป็นอินเตอร์มากขึ้น เราต้องมั่นใจว่าคนไทยทำได้" หลุยส์กล่าว--จบ--
-สส-