กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--กระทรวงศึกษาฯ
กรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับศาลเยาวชน และ ครอบครัวกลางกระทรวงยุติธรรมเปิดโครงการ ร่วมมือใน การจัดการศึกษาและกิจกรรมด้านพลศึกษา กีฬาให้แก่เด็กเยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก เยาวชน จำนวน 40,000 คน โดยกรมพลศึกษาได้มอบ อุปกรณ์กีฬาให้สถานพินิจฯ 21 แห่งทั่วประเทศไทย พร้อมจัดบุคลากรลงไปสอนพลศึกษาและลูกเสือ ยุวกาชาด ให้แก่เยาวชนในสถานพินิจ ฯ ด้วย
ที่ห้องประชุม กรมพลศึกษา เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายจำลอง ครุฑขุนทด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดแถลงถึงโครงการร่วมมือการจัดการศึกษาและกิจกรรม ด้านพลศึกษาและกีฬาให้กับเด็กและเยาวชน ที่อยู่ในความดูแล ของสถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน 40,000 คน ประจำปี 2544 โดยมีนายไพศาล วิเชียรเกื้อ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง ยุติธรรม , นายสุทธิ ผลสวัสดิ์ อธิบดีกรมพลศึกษา ร่วมแถลง
กรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ รวมกับศาลเยาวชนและ ครอบครัวกลาง กระทรวงยุติธรรม ได้ทำข้อตกลงในโครงการ ร่วมมือการจัดการศึกษาและ กิจกรรมด้านพลศึกษา กีฬา ให้แก่เด็กและเยาวชน ที่อยู่ในความดูแลของสถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู พัฒนาเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ ให้มีความรู้ความ สามารถในการประกอบอาชีพ มีสุขภาพ อนามัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นพลเมืองดี และสามารถดำรงชีวิต อย่างมีความสุข
สำหรับปีงบประมาณ 2544 กรมพลศึกษาได้จัซื้ออุปกรณ์กีฬา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาด้านพลศึกษา และกีฬาให้แก่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน 21 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี จันทบุรี บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ อุดรธานี นครพนม ร้อยเอ็ด นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สตูล ปัตตานี และนราธิวาส
นอกจากนี้นายจำลอง ครุฑขุนทด รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้สถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้นำไปใช้ต่อไป รวมทั้งยังจัด บุคลากรลงไปสอนพลศึกษา กีฬา ลูกเสือ ยุวกาชาด ให้แก่เยาวชน ในสถานพินิจฯอีกด้วย
ภายหลังการแถลงข่าว นายสุทธิ ผลสวัสดิ์ อธิบดีกรมพลศึกษา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบให้ กรมพลศึกษา ร่วมมือหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ตำรวจ-ทหาร โรงเรียน และวิทยาลัย เร่งดำเนินการช่วยกันจัดระเบียบสังคมให้ดี เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับ สภาพและ วัยของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา เช่นการเที่ยวเตร่ในสถานบริการ มั่วสุมเล่นการพนัน เสพย์ยาเสพติด เป็นต้น
ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบาย ให้สารวัตรนักเรียน ที่กรมพลศึกษามีอยู่เพียง 200 คน เร่งสร้าง เครือข่าย หาแนวร่วมครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ เพื่อเฝ้าระวังดูแล นักเรียน นักศึกษา และรัฐบาลพร้อมจะหาเงินมาสนับสนุนเพิ่มเติม อีก รวมถึงผู้ที่ทำงานด้านนี้จะได้รับพิจารณาขั้นเงินเดือนเป็นพิเศษ และให้เป็นข้าราชการดีเด่นที่เสียสละในการทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งกรมพลศึกษาจะนำเสนอผลการดำเนินงานต่อ กระทรวงศึกษา ต่อไปด้วย--จบ--
-สส-