กทม. และการเคหะแห่งชาติ เตรียมที่ดินรองรับการรื้อย้ายชุมชนใต้สะพาน 615 ครอบครัว

พฤหัส ๒๖ ตุลาคม ๒๐๐๐ ๐๙:๑๓
กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--กทม.
นพ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ต.ค.43) กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาชุมชน สำนักสวัสดิการสังคม และสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเตรียมความพร้อมการรื้อย้ายชุมชนใต้สะพาน ร่วมกับผู้แทนการเคหะแห่งชาติ ตัวแทนชุมชนใต้สะพาน และองค์กรเอกชน อาทิ มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย กลุ่มเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น ซึ่งความคืบหน้าในการรื้อย้ายขณะนี้ ชุมชนที่อาศัยบริเวณใต้สะพาน 72 สะพานทั่วกทม. รวม 615 ครอบครัว พร้อมที่จะย้ายเข้าอยู่ในที่ดินการเคหะแห่งชาติจัดเตรียมไว้ให้ ประมาณกลางเดือนมี.ค. - เม.ย.2544
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า ชุมชนใต้สะพานในกทม. กระจายอยู่ใน 25 เขต ซึ่งการเคหะแห่งชาติและ กทม.ได้พัฒนาที่ดิน จำนวน 3 แปลง สำหรับให้ชาวชุมชนเหล่านี้เข้าอยู่อาศัย โดยแห่งแรกตั้งอยู่ที่เขตทุ่งครุ ดำเนินการพัฒนาไปได้ประมาณ 82 % คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายเดือน ธ.ค.43 จะมีชุมชนใต้สะพานย้ายเข้าอยู่อาศัย 231 ครอบครัว แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่อ่อนนุช เขตประเวศ ขณะนี้ปรับปรุงแล้วเสร็จ 100 % จะมีชุมชนย้ายเข้าอยู่ 187 ครอบครัว แห่งที่ 3 ตั้งอยู่ที่เขตสายไหม ดำเนินการพัฒนาไปได้ประมาณ 92 % คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือน พ.ย.43 จะมีชุมชนย้ายเข้าอยู่ 197 ครอบครัว ทั้งนี้ที่ดินทั้ง 3 แปลงพร้อมรองรับการย้ายเข้าอยู่ภายในสิ้นปีนี้ แต่ชาวชุมชนใต้สะพานได้ขอผ่อนผันให้ทำการรื้อย้ายในช่วงเดือนมี.ค. — เม.ย.2544 เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียน สะดวกต่อการย้ายที่อยู่อาศัย ในการนี้กทม.จะสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่ารื้อถอนตามความเป็นจริง แต่ไม่เกินครอบครัวละ 10,000 บาท
สำหรับที่ดิน 3 แปลงที่จะให้ชุมชนใต้สะพานย้ายเข้าอยู่นี้ เป็นที่ดินเช่าราคาถูกของการเคหะแห่งชาติ จัดสรรให้ครอบครัวละ 11 ตารางวา และ 18 ตารางวา สำหรับการทำสัญญาเช่า การเคหะแห่งชาติจะทำสัญญากับผู้แทนชุมชนแต่ละกลุ่ม ทั้ง 3 กลุ่ม โดยคิดค่าเช่าแบบเหมารวมแปลงละประมาณ 6,000 บาท/เดือน จากนั้นผู้แทนชุมชนแต่ละกลุ่มจะไปจัดเก็บค่าเช่าที่ดินจากครอบครัวต่าง ๆ ในกลุ่มของตนเอง ทั้งนี้ห้ามเก็บค่าเช่าเกินครอบครัวละ 300 บาท/เดือน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กทม.ยังมีโครงการที่จะรื้อย้ายครอบครัวผู้บุกรุกกองขยะรามอินทรา จำนวน 26 ครอบครัว เข้าอยู่ในที่ดินรองรับฯ ที่เขตสายไหมด้วย ซึ่งเมื่อย้ายชุมชนดังกล่าวไปแล้ว กทม.จะดำเนินการปรับปรุงที่ดินบริเวณกองขยะรามอินทรา พื้นที่กว่า 60 ไร่ให้เป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม เกิดประโยชน์โดยรวมแก่ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง สำหรับพื้นที่ใต้สะพานภายหลังการรื้อย้ายชุมชนต่าง ๆ ออกไปแล้ว กทม.จะขอความร่วมมือจากชุมชนที่เคยอาศัยอยู่เดิม ให้กลับไปดูแลไม่ให้มีการบุกรุกตั้งที่อยู่อาศัยอีก รวมทั้งจะขอความร่วมมือจากสำนักงานเขตต่าง ๆ ให้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ใต้สะพานโดยการปลูกต้นไม้ หรือสร้างรั้วกั้น ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ คอยดูแลไม่ให้มีการตั้งชุมชนใต้สะพานอีกต่อไป--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO